เกม Elden Ring  ยืนยันโหมดความยากระดับอัลตร้าฮาร์ดแล้ว

Elden Ring โหมดความยากระดับ Ultra Hard ที่เคยลือกันมาก่อนของ Nightreign นั้นเป็นของจริงและเป็นทางการแล้ว ตามข้อมูลจาก Bandai Namco และจะวางจำหน่ายในวันที่ 11 กันยายนนี้ตามที่ประกาศไว้ในโพสต์อย่างเป็นทางการ โหมดใหม่นี้มีชื่อว่า “Deep of Night” เกม Elden Ring  ยืนยันโหมดความยากระดับอัลตร้าฮาร์ดแล้ว และเป็นโหมดท้าทายของเกมหลัก ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ เนื้อหาท้ายเกมที่ท้าทายของ Nightreign จะจำกัดอยู่แค่บอสที่ยากขึ้น แต่ Deep of Night จะส่งผลต่อการเล่นทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบประการหนึ่ง ศัตรูจะแข็งแกร่งกว่าปกติในทุกๆ ด้าน คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะต้องต่อสู้กับ Nightlord ตัวไหน และคุณจะไม่รู้ว่าจะมีอีเวนต์ Shifting Earth ล่วงหน้าหรือไม่ ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถเตรียมบิลด์สำหรับการเล่นแบบใดแบบหนึ่งได้

อย่างไรก็ตาม เพื่อชดเชยสิ่งนี้ ผู้เล่นจะสามารถสะสมอาวุธและของสะสมประเภทใหม่ๆ ที่มีเอฟเฟกต์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น…แม้ว่าพวกมันอาจมีข้อเสียใหม่ๆ ตามมาด้วยก็ตามเมื่อคุณเล่นและชนะ Deep of Night คุณจะลงไปยังระดับความลึกที่ลึกขึ้น อย่างน้อยก็ไปถึงระดับความลึก 5 ความลึกแต่ละระดับจะยิ่งท้าทายมากขึ้น แม้ว่าการแพ้จะผลักคุณกลับไปสู่ระดับความลึกที่ง่ายกว่าโหมดนี้เคยถูกขุดข้อมูลมาแล้ว โดยนักขุดข้อมูลได้แก้ไขรายละเอียดทั้งหมดที่ประกาศไว้อย่างถูกต้อง แม้ว่าจะยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ข้อมูลจากเหมืองข้อมูลแนะนำว่า Deep of Night จะมีการจับคู่ตามทักษะ และศัตรูบางตัวจะได้รับเอฟเฟกต์พิเศษเพิ่มเติม เช่น “ถูกแมกมา” หรือถูกแมกมาปกคลุม ข้อมูลยังแนะนำด้วย

รายละเอียดของ Elden Ring

ข้อมูลล่าสุดที่ Bandai Namco ได้ยืนยันแล้ว Elden Ring ภาคเสริมของ Elden Ring จะมีโหมดความยากระดับอัลตร้าฮาร์ดที่ชื่อว่า “Deep of Night” และจะปล่อยให้เล่นในวันที่ 11 กันยายนนี้ โหมดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้เล่นที่เชี่ยวชาญและต้องการความท้าทายที่มากกว่าปกติ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

  • ศัตรูที่แข็งแกร่งขึ้น ศัตรูในโหมดนี้จะมีความทนทานและโจมตีได้รุนแรงกว่าเดิมมาก ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ทักษะและกลยุทธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
  • การปรับความยากตามระดับความลึก โหมดนี้จะแบ่งความยากออกเป็นระดับ “ความลึก” (Depths) ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเมื่อผู้เล่นสามารถเอาชนะได้ แต่หากพ่ายแพ้ก็จะถูกผลักกลับไปยังระดับความยากที่ง่ายกว่า
  • การต่อสู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ในระดับความลึกที่ 4 และ 5 ผู้เล่นจะได้เผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด (endless battle) เพื่อทดสอบความอึดและทักษะที่แท้จริง
  • ไอเทมและอาวุธใหม่ ผู้เล่นจะได้รับโอกาสในการค้นหาอาวุธและ Relics (วัตถุโบราณ) ชนิดใหม่ที่มีพลังพิเศษ แต่บางชิ้นก็อาจจะมีผลเสียต่อตัวละครด้วยเช่นกัน

ความน่าสนใจของเกม Elden Ring  

โหมด “Deep of Night” มีความน่าสนใจเพราะมันไม่ใช่แค่ความยากที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเกมเพลย์ทั้งหมด ทำให้ผู้เล่นต้องท้าทายตัวเองในทุกด้าน ทั้งการปรับตัว การวางแผน และการใช้ทักษะการต่อสู้ในระดับที่สูงที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบเกมของ FromSoftware ที่เน้นการมอบความท้าทายสูงสุดให้กับผู้เล่นอยู่แล้ว

  • ไม่ใช่แค่การเพิ่มพลังศัตรูแบบธรรมดา: โหมดนี้ไม่ได้เน้นแค่การเพิ่มพลังโจมตีหรือพลังชีวิตของศัตรูเท่านั้น แต่ยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ให้มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น ศัตรูบางตัวจะมีสถานะพิเศษหรือความสามารถใหม่ ๆ อย่าง “magmafied” ที่ทำให้พวกมันแข็งแกร่งและอันตรายยิ่งขึ้น
  • ระบบ “ความลึก” ที่ปรับเปลี่ยนได้ (Depths): การเพิ่มระดับความยากแบบก้าวหน้า (escalating difficulty) ตาม “ความลึก” (Depths) ที่ผู้เล่นสามารถเอาชนะได้ ทำให้เกมมีความท้าทายที่ไม่หยุดนิ่งและปรับเปลี่ยนตามฝีมือของผู้เล่น ยิ่งเล่นได้ดี ความยากก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่มีคำว่า “ง่าย” อีกต่อไป
  • การเล่นที่ต้องใช้ความยืดหยุ่นสูง: ผู้เล่นจะไม่สามารถเลือกบอสเป้าหมายได้ ทำให้ไม่สามารถเตรียมตัวหรือใช้ “บิลด์” (build) ที่เจาะจงกับบอสตัวใดตัวหนึ่งได้เลย การเล่นจึงต้องอาศัยการปรับตัวและใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อให้สามารถเอาชนะบอสได้ทุกประเภท
  • ความเสี่ยงที่มาพร้อมรางวัล (Risk-Reward): โหมดนี้จะมอบไอเทมและอาวุธใหม่ ๆ ที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น แต่ก็อาจจะมี “ผลเสีย” หรือข้อจำกัดที่ทำให้ผู้เล่นต้องชั่งน้ำหนักว่าจะใช้งานหรือไม่ เช่น อาวุธที่เพิ่มพลังโจมตีมหาศาล แต่อาจทำให้ตัวละครติดสถานะผิดปกติ หรือได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น
  • การต่อสู้แบบไม่มีที่สิ้นสุด (Endless Battle): ในระดับความลึกที่สูงขึ้นอย่าง Depth 4 และ 5 มีการยืนยันว่าจะมีการต่อสู้แบบ “ไม่มีที่สิ้นสุด” ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ทดสอบความอดทนและทักษะที่แท้จริงของผู้เล่น ไม่ใช่แค่การเอาชนะบอสตัวสุดท้ายแล้วจบเกม
Scroll to Top