Animal Crossing เลสลี สวอนน์ ผู้จัดการฝ่ายแปลภาษาของ Nintendo ได้ให้สัมภาษณ์กับ Time Extension ว่าผู้บริหารได้เตือนว่าการเปิดตัว Animal Crossing ในภาษาอังกฤษ ซึ่งในตอนนั้นใช้ชื่อว่า Animal Forest จะเป็นงานใหญ่ รีวิวเกม Animal Crossing ชีวิตสโลว์ไลฟ์บนเกาะ เนื่องจากเนื้อหาภายในเกมมีจำนวนมาก รวมถึงการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมและไอเทมเฉพาะของญี่ปุ่นมากมาย
แน่นอนว่า สวอนจำได้ว่า ซาโตรุ อิวาตะ อดีตประธาน Nintendo ค้นพบว่าทีมงานของเธอกำลังพยายามนำเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องความแปลกประหลาดและเน้นเนื้อหาตัวอักษรนี้ไปเปิดตัวนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง “เรารู้จัก Animal Forest ดี แต่ไม่เคยลองเล่นจริงจังเท่าไหร่ ปกติเราจะซื้อเกมเวอร์ชันญี่ปุ่นมาเล่น” สวอนน์เล่า “แต่เราไม่ได้ลองเล่นเวอร์ชันนั้นมากนัก ยังไงก็ตาม [ทาคาชิ เทสึกะ เจ้าหน้าที่บริหารของ Nintendo] ก็พูดกับผมว่า ‘เราอยากให้คุณแปลเกมให้เป็นภาษาท้องถิ่น’ ผมก็เลยตอบไปว่า ‘ได้สิ’ “แต่แล้วเขาก็บอกว่า ‘ไม่นะ เลสลี่ ผมไม่แน่ใจว่าคุณเข้าใจไหม มันคงยาก’ ผมก็ต้องคอยย้ำกับเขาว่าเราจะทำให้มันเกิดขึ้น”
เกม Animal Crossing
คุณจะได้รับบทเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ย้ายไปอยู่บนเกาะร้างอันห่างไกล โดยมีเพียงเต็นท์เล็กๆ และสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง โดยมีตัวละคร NPC ที่ชื่อ Tom Nook เป็นผู้ช่วยคอยแนะนำการใช้ชีวิตในตอนแรก เกมนี้ไม่ได้มีเนื้อเรื่องหลักที่ตายตัวหรือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่จะเน้นให้ผู้เล่นได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระและสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง Animal Forest ภาคแรกสุดที่รู้จักกันในชื่อ Animal Forest วางจำหน่ายบนเครื่อง N64 ในเดือนเมษายน ปี 2001 และไม่เคยวางจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น จนกระทั่งเกมได้รับการขยายตลาดบน GameCube จึงมีการตัดสินใจที่จะแปลเกมนี้เป็นภาษาท้องถิ่นที่อื่น และถึงอย่างนั้น การวางจำหน่ายทั่วโลกก็ใช้เวลานานหลายปี “หนึ่งหรือสองเดือนต่อมา ผมได้เข้าร่วมการประชุมกับคุณอิวาตะและหัวหน้าทีมพัฒนาคนอื่นๆ” สวอนเล่า “พวกเราคุยกันว่า ‘นี่คือสิ่งที่เรากำลังจะทำ’ แล้วผมก็บอกไปว่า ‘คุณเทะสึกะขอให้เราทำ Animal Forest น่ะ’ แล้วเขาก็หัวเราะออกมาเลย เขาหัวเราะแล้วบอกว่า ‘ผมไม่รู้ว่าคุณจะทำยังไง’ ซึ่งก็จริง ทุกอย่างในเกมนั้นมันเฉพาะเจาะจงกับญี่ปุ่นมาก” เป็นเกมจำลองชีวิตสไตล์สโลว์ไลฟ์ที่พัฒนาและเผยแพร่โดย Nintendo ให้ผู้เล่นได้หลีกหนีความวุ่นวายจากโลกแห่งความเป็นจริงไปใช้ชีวิตบนเกาะในฝันของตัวเอง
รูปแบบการเล่นเกม Animal Crossing
- สร้างและตกแต่งเกาะ คุณสามารถเก็บเกี่ยวทรัพยากรต่างๆ เช่น ไม้ หิน หรือผลไม้ เพื่อนำมาประดิษฐ์ (Crafting) เป็นเครื่องมือ ของตกแต่งบ้าน หรือแม้กระทั่งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ และนำไปจัดวางตกแต่งได้ทั่วทั้งเกาะ รวมถึงการสร้างสะพานและทางลาดเพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ เข้าด้วยกัน
- ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน บนเกาะจะมีสัตว์พูดได้ (Villagers) มาอาศัยอยู่ร่วมกับคุณ ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีนิสัยและบุคลิกที่แตกต่างกันไป คุณสามารถพูดคุย ให้ของขวัญ หรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาได้
- กิจกรรมในชีวิตประจำวัน เกมนี้จำลองการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสมจริง เช่น การตกปลา จับแมลง ขุดฟอสซิล ปลูกพืช หรือแม้แต่การซื้อ-ขายของในร้านค้า การทำกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้คุณได้รับเงิน (Bells) เพื่อนำไปซื้อของหรือชำระหนี้กับ Tom Nook
- ระบบเวลาและฤดูกาล เกมจะดำเนินไปตามเวลาจริงของโลก ซึ่งหมายความว่าในแต่ละช่วงเวลาของวัน ฤดูกาล หรือวันสำคัญต่างๆ บนเกาะก็จะเปลี่ยนไปตามนั้นด้วย ทำให้มีกิจกรรมใหม่ๆ ให้ทำอยู่เสมอ
จุดเด่นของเกม Animal Crossing
- ผ่อนคลายและไร้ความกดดัน เกมนี้ไม่มีการต่อสู้หรือการแข่งขันที่ต้องเอาชนะ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเกมที่เล่นสบายๆ และช่วยผ่อนคลาย
- ความอิสระในการสร้างสรรค์ คุณสามารถออกแบบเกาะ บ้าน และตัวละครของคุณได้อย่างอิสระ ทำให้เกาะของคุณมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
- งานภาพและเสียง กราฟิกของเกมมีสไตล์การ์ตูนที่น่ารักและสีสันสดใส เพลงประกอบก็มีความอบอุ่นและช่วยสร้างบรรยากาศที่สบายๆ ได้ดี
- เล่นร่วมกับเพื่อน คุณสามารถชวนเพื่อนๆ มาเยี่ยมชมเกาะของคุณ หรือเดินทางไปเกาะของเพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของและทำกิจกรรมร่วมกันได้
ข้อสังเกตของเกม Animal Crossing
- การดำเนินเกมเป็นไปอย่างช้าๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมที่รวดเร็วและมีเป้าหมายชัดเจน อาจจะรู้สึกว่าเกมนี้ดำเนินไปอย่างช้าๆ และต้องใช้เวลาในการสร้างเกาะพอสมควร
- เป็นเกมประเภท Niche เกมนี้อาจไม่เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกคน เพราะรูปแบบการเล่นที่เน้นความสโลว์ไลฟ์อาจไม่ถูกใจผู้เล่นสายแอคชันหรือสายฮาร์ดคอร์
โดยรวมแล้ว Animal Crossing New Horizons เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมสำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาเกมที่ช่วยให้ผ่อนคลายและมีอิสระในการสร้างสรรค์โลกในฝันของตัวเอง เป็นเกมที่จะทำให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างช้าๆ และเต็มอิ่มไปกับความสุขเล็กๆ น้อยๆ ในทุกๆ วัน
