The Strangers เป็นภาพยนตร์สยองขวัญแนวบุกรุกบ้าน (Home Invasion) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการสร้างบรรยากาศที่น่าหวาดระแวงและความตึงเครียดที่แท้จริงปีที่แล้ว Lionsgate และผู้กำกับ Renny Harlin ได้ส่งมอบหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ได้รับการตอบรับแย่ที่สุดแห่งปี 2024 ให้กับ The Strangers: Chapter 1 ซึ่งพยายามนำแฟรนไชส์ Strangers กลับมาอีกครั้งด้วยภาคแรกในไตรภาคที่วางแผนไว้ รีวิวภาพยนตร์สยองขวัญ The Strangers ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนักวิจารณ์และแฟนหนังสยองขวัญว่าเป็นการลอกเลียนแบบภาพยนตร์ต้นฉบับในปี 2008 ที่มีตัวละครว่างเปล่า กำกับแบบลวกๆ และขาดความรุนแรงอันเป็นเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ บัดนี้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องได้ทำซ้ำความสำเร็จนี้อีกครั้งกับ The Strangers – Chapter 2 (หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นคือยังคงทำผลงานเดิมต่อไป เพราะพวกเขาถ่ายทำสามภาคติดต่อกัน) ซึ่งกำลังจะกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ได้รับการตอบรับแย่ที่สุดแห่งปี 2025 ขอพระเจ้าช่วยเราเมื่อ Chapter 3 เข้าฉายในปีหน้า
เนื้อเรื่อง The Strangers โดยย่อ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นกับคู่รักคู่หนึ่ง คือ คริสเตน (Kristen – Liv Tyler) และ เจมส์ (James – Scott Speedman) ที่เพิ่งกลับจากงานแต่งงานของเพื่อน และมาพักที่บ้านพักตากอากาศอันห่างไกลกลางป่า บรรยากาศของทั้งคู่เต็มไปด้วยความอึดอัดใจหลังจากที่คริสเตนปฏิเสธคำขอแต่งงานของเจมส์ ในกลางดึก คืนนั้นมีเสียงเคาะประตู และมีหญิงสาวแปลกหน้ามาถามหาคนที่พวกเขาไม่รู้จัก เหตุการณ์แปลกประหลาดที่ค่อย ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อทั้งคู่เริ่มตระหนักว่าพวกเขากำลังถูกคุกคามและตามล่าโดยคนแปลกหน้าสามคนที่สวมหน้ากากปริศนา
จุดเด่นที่ทำให้หนัง The Strangers น่ากลัว
- ความสมจริงของสถานการณ์ สิ่งที่ทำให้ The Strangers น่ากลัวอย่างแท้จริงคือความสมจริงของมัน ไม่มีเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ไม่มีสัตว์ประหลาด มีแต่ “คนแปลกหน้า” ธรรมดา ๆ ที่บุกเข้ามาในพื้นที่ปลอดภัยที่สุดอย่าง “บ้าน”
- การสร้างบรรยากาศและ Suspense ผู้กำกับ Bryan Bertino ใช้เสียงและภาพนิ่งได้อย่างยอดเยี่ยม หนังไม่เน้น Jump Scare บ่อยครั้ง แต่จะใช้การสร้าง ความตึงเครียด (Suspense) อย่างช้า ๆ และต่อเนื่อง เช่น การปรากฏตัวของคนสวมหน้ากากที่ยืนนิ่ง ๆ อยู่ในเงามืดด้านหลังตัวละคร หรือเสียงเคาะ/ทุบที่ดังมาจากภายนอก ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกกระสับกระส่ายและหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา
- แรงจูงใจที่ไร้เหตุผล ประโยคคำถามหนึ่งในเรื่องที่กลายเป็นประโยคคลาสสิกของหนังเรื่องนี้คือ เมื่อตัวละครถามคนร้ายว่า “ทำไมถึงทำแบบนี้?” และคำตอบที่ได้คือ “ก็เพราะคุณอยู่บ้าน” (Because you were home.) การที่คนร้ายไม่มีแรงจูงใจที่ซับซ้อนใด ๆ นอกจากการเลือกเหยื่อแบบสุ่ม ทำให้ความน่ากลัวทวีคูณ เพราะมันหมายความว่าทุกคนสามารถตกเป็นเหยื่อได้ทุกเมื่อ
ข้อสังเกตของ The Strangers
- เน้นบรรยากาศมากกว่าพล็อต ตัวหนังไม่ได้มีพล็อตที่ซับซ้อนหรือปมปริศนาที่ต้องแก้ไข หากใครที่คาดหวังเรื่องราวเบื้องหลังของฆาตกร อาจจะรู้สึกว่าเนื้อเรื่อง “เบา” ไปหน่อย เพราะหนังเน้นไปที่การเอาชีวิตรอดและความหวาดกลัว ณ ขณะนั้น
- ความรุนแรง แม้ว่าจะไม่หวือหวาด้วยฉากเลือดสาดตลอดเวลา แต่ฉากความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีความดิบและหดหู่ ทำให้เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกไม่สบายใจอย่างแท้จริง
สรุป
The Strangers (2008) เป็น ภาพยนตร์สยองขวัญ ที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างความกลัวแบบปฐมภูมิ (Primal Fear) จากสถานการณ์ “Home Invasion” เผื่อคุณลืม Chapter 1 จบลงด้วยการที่ Maya (Madelaine Petsch) ต้องเข้าโรงพยาบาลหลังจากรอดชีวิตจากการเผชิญหน้ากับฆาตกรสวมหน้ากากที่ใช้ชื่อเดียวกับหนัง ไรอัน (ฟรอย กูเตียร์เรซ) คู่หมั้นของเธอกลับโชคร้ายกว่า เพราะเสียเลือดหมดตัวก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึง บทที่ 2 ดำเนินเรื่องต่อจากภาคแรกตรงที่มายายังคงฟื้นตัวจากเหตุการณ์อันเลวร้ายและรอการช่วยเหลือจากเด็บบี้ (ราเชล เชนตัน) น้องสาวของเธอ แต่เมื่อนายอำเภอรอตเตอร์ (ริชาร์ด เบรก) เปิดเผยกับลูกค้าประจำร้านอาหารท้องถิ่นว่ามายารอดชีวิตจากเหตุการณ์ในคืนนั้น สแกร์โครว์ ดอลล์เฟซ และพินอัพเกิร์ลจึงบุกโรงพยาบาลเพื่อตามหาเหยื่อที่ตั้งใจไว้ สิ่งที่ตามมาคือฉากการไล่ล่าอันยาวนานตลอดทั้งเรื่อง โดยมีช่วงพักสั้นๆ เพียงไม่กี่ช่วง ขณะที่มายาพยายามหาทางออกจากเมืองอย่างสิ้นหวัง
มันเป็นตัวอย่างที่ดีของหนังที่ใช้ความเรียบง่ายและบรรยากาศที่มืดมิดในการทำให้ผู้ชมรู้สึกไม่ปลอดภัย หากคุณชื่นชอบหนังสยองขวัญที่เน้นความตึงเครียด ความหวาดระแวง และความรู้สึกที่ว่า “เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครก็ได้” หนังเรื่องนี้เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
