สำหรับเกมเมอร์หลายคน Super Mario Galaxy ทั้งสองภาคไม่ใช่แค่เกม แต่คือบทพิสูจน์ว่าเกมแพลตฟอร์ม 3 มิติสามารถไปได้ไกลแค่ไหนในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ และการกลับมาของแพ็กคู่ในเวอร์ชันรีมาสเตอร์บน Nintendo Switch (หรือ Switch 2) นี้ ก็ทำให้เราได้หวนคืนสู่ห้วงอวกาศอันแสนมหัศจรรย์อีกครั้ง ซึ่งบอกเลยว่าถึงจะเก่า แต่เก๋าและสนุกจนวางไม่ลงจริงๆ
🚀 สรุปสั้นๆ (สำหรับคนรีบอ่าน)
- สองเกมสุดคลาสสิกในแพ็กเดียว: ได้เกมเพลย์ระดับมาสเตอร์พีซของ Mario มาถึงสองภาค ที่สนุกที่สุดภาคหนึ่งของซีรีส์เลยก็ว่าได้
- การออกแบบด่านระดับเทพ: ไอเดียไม่มีวันหมด แต่ละด่านคือดาวเคราะห์น้อยที่มาพร้อมกลไกเฉพาะตัว ไม่ซ้ำซากจำเจ
- เพลงประกอบออร์เคสตรา: คือที่สุด! ยิ่งใหญ่ อลังการ และกินใจ ทำให้การผจญภัยในอวกาศมีชีวิตชีวาขึ้นเป็นสิบเท่า
- ภาพสวยงามขึ้น (มาก): การอัปเกรดความละเอียดสูง ทำให้กราฟิกแบบ Wii ที่มีสไตล์อยู่แล้ว ดูคมชัดและสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ข้อสังเกต: การควบคุมแบบ Motion Control (ใช้ Joy-Con) อาจจะยังไม่ลื่นไหลเท่า Wii Remote เดิมๆ แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว

✨ แก่นแท้ของความสนุก: ไอเดียที่ไม่เคยหยุดนิ่ง
สิ่งที่ทำให้ Galaxy ยืนหนึ่งในวงการเกมแพลตฟอร์มคือ “อิสระในการออกแบบด่าน” ที่หลุดพ้นจากกรอบสี่เหลี่ยมแบบเดิมๆ มาริโอ้ไม่ได้กระโดดบนพื้นราบอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เขาต้องวิ่งไปรอบๆ ดาวเคราะห์ทรงกลมเล็กๆ ที่มีแรงโน้มถ่วงเป็นของตัวเอง!
ความรู้สึกที่ได้วิ่งทะลุกาแล็กซี, ถูกแรงดึงดูดจากดาวดวงหนึ่งพุ่งไปยังอีกดวง, หรือการเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงแบบฉับพลัน… มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นและสร้างสรรค์มากจริงๆ ผู้พัฒนาเหมือนจับเอาไอเดียเจ๋งๆ มาใส่ในเครื่องปั่น แล้วรังสรรค์ด่านออกมาเป็นสิบๆ ด่าน ที่แต่ละด่านมีลูกเล่นและคอนเซ็ปต์ของตัวเองโดยไม่ซ้ำกันเลย
Super Mario Galaxy 1: ความรู้สึกยิ่งใหญ่และอลังการ
ภาคแรกมาพร้อมกับเนื้อเรื่องที่มีสเกลระดับมหากาพย์กว่าภาคอื่นๆ มี Rosalina และ Comet Observatory เป็นศูนย์กลางการผจญภัย ทำให้รู้สึกเหมือนเราได้ออกเดินทางไปช่วยเหลือจักรวาลจริงๆ บรรยากาศจะมีความเหงาปนสวยงาม เป็นการผจญภัยที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์และเรื่องราวเบื้องหลังที่แสนจะน่ารัก (และการเพิ่ม Storybook ของ Rosalina เข้ามาในเวอร์ชันนี้ก็เป็นของแถมที่น่ารักมากๆ)
Super Mario Galaxy 2: เกมเพลย์ที่กลั่นกรองและเข้มข้น
ถ้าภาคแรกคือการสำรวจ ภาคสองคือการ “ไปต่อ” ในทุกๆ ด้าน ภาคนี้ตัดความยุ่งยากของ Hub World ออกไป เน้นที่การตะลุยด่านเป็นเส้นตรงมากขึ้น แต่แลกมาด้วยการออกแบบด่านที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมและมีปริศนาที่ท้าทายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การกลับมาของ Yoshi ที่มาพร้อมพลังใหม่ๆ (เช่น Cloud Yoshi หรือ Blimp Yoshi) ทำให้เกมเพลย์หลากหลายและเร้าใจสุดๆ หลายคนยกให้ภาค 2 คือที่สุดของเกมแพลตฟอร์ม 3D ด้วยซ้ำ เพราะมันคือการรวบรวมไอเดียสุดโต่งทั้งหมดมาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
🎨 กราฟิกและเพลง: สุนทรียภาพแห่งอวกาศ
ถึงแม้จะไม่มีการ “Remake” แบบยกเครื่อง แต่การที่เกมถูกอัปเกรดความละเอียดเป็น 1080p (หรือ 4K บน Switch 2) ก็ทำให้เกมที่อายุเป็นสิบปีกลับมาดู “ใหม่” ได้อย่างไม่น่าเชื่อ แสงเงาที่ตกกระทบพื้นผิว, การออกแบบตัวละคร, และสีสันที่สดใสแบบ Nintendo ทำให้เกมดูสวยงามไม่แพ้เกมยุคปัจจุบันเลย
และที่ขาดไม่ได้คือ เพลงประกอบ ในทุกๆ โลกของ Galaxy มาริโอ้จะถูกโอบล้อมด้วยดนตรีออร์เคสตราวงใหญ่ที่บันทึกเสียงมาอย่างพิถีพิถัน เพลงบางเพลงฟังแล้วฮึกเหิมอยากออกไปกระโดด บางเพลงฟังแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายในอวกาศ การที่แพ็กนี้มี Music Player ให้เราฟังเพลงทั้งหมดนอกเกมได้ จึงเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คนรักดนตรีจะฟินจนตัวลอย
🕹️ การควบคุม: ประสบการณ์ที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ดีพอ
ปัญหาเดียวที่แฟนๆ บ่นกันมากที่สุดคือ Motion Control ที่ใช้ควบคุม Star Bit และการหมุนตัวของมาริโอ้ (Spin Attack) แม้ว่า Nintendo จะพยายามปรับการควบคุมบน Joy-Con และรองรับ Gyro Aiming ใน Handheld Mode แล้ว แต่ความแม่นยำก็ยังไม่เทียบเท่า Wii Remote ที่เป็นต้นฉบับ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าเล่นไม่ได้นะครับ! โดยรวมแล้วถือว่าทำได้ “ดีพอ” ที่จะเล่นเกมให้จบได้อย่างสนุกสนาน แค่อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยสำหรับคนที่เพิ่งเคยเล่น
⭐ บทสรุป: Must-Have อย่างไม่มีข้อกังขา
Super Mario Galaxy 1+2 คือแพ็กเกจที่รวมเอาสองเกมแพลตฟอร์ม 3 มิติที่ดีที่สุดตลอดกาลไว้ด้วยกัน มันคือบทเรียนในการออกแบบเกมที่สอนให้รู้ว่า “ความคิดสร้างสรรค์” สำคัญกว่า “พละกำลัง” ของเครื่องคอนโซลมากแค่ไหน
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟน Mario ที่เคยเล่นมาตั้งแต่สมัย Wii หรือเป็นผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสความสนุกนี้มาก่อน นี่คือโอกาสทองที่คุณไม่ควรพลาด เพราะเกมนี้คือ นิยามของความสนุกไร้ขีดจำกัด ในราคาที่ได้เกมระดับตำนานถึงสองภาค การผจญภัยในอวกาศของมาริโอ้ยังคงเปล่งประกายเจิดจรัส และไม่มีวี่แววว่าจะถูกกลืนหายไปตามกาลเวลาเลยแม้แต่น้อย
🎮 ตัวอย่างเกม https://youtu.be/xrZD3ssCZEc?si=Sbblb7jpyZtNjjbv
📝 บทความที่เกี่ยวข้อง




