
แอนิเมชันซูเปอร์ฮีโร่สุดล้ำ Spider-Man: Into the Spider-Verse ถ่ายทอดเรื่องราวของ Miles Morales และเหล่าสไปเดอร์ฮีโร่จากจักรวาลคู่ขนาน ผ่านสไตล์ภาพการ์ตูนคอมิกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมแฝงความอบอุ่นและแรงบันดาลใจ
เรื่องย่อ
Spider-Man: Into the Spider-Verse เป็นผลงานแอนิเมชันจาก Sony Pictures Animation ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม และคว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Animated Feature ในปี 2019 เรื่องราวเล่าถึง Miles Morales เด็กหนุ่มเชื้อสายแอฟริกัน-ลาติน ที่ถูกแมงมุมกัมมันตรังสีจากโครงการลับกัดจนได้พลังพิเศษ
ในขณะเดียวกัน Kingpin วายร้ายผู้ทรงอิทธิพล ได้สร้างเครื่อง “Collider” เพื่อเปิดประตูมิติ หวังนำครอบครัวจากอีกจักรวาลกลับมา การทดลองนี้ทำให้จักรวาลหลายเส้นมาบรรจบกัน และนำเหล่าสไปเดอร์แมนจากโลกต่าง ๆ เข้ามาในมิติของ Miles ได้แก่ Peter B. Parker รุ่นพี่สไปเดอร์ที่หมดไฟ, Gwen Stacy หรือ Spider-Woman, Spider-Man Noir, Peni Parker และแม้แต่ Spider-Ham หมูสไปเดอร์จอมฮา
Miles ต้องเรียนรู้การควบคุมพลังของตัวเอง พร้อมร่วมมือกับเพื่อน ๆ จากจักรวาลคู่ขนาน เพื่อหยุดแผนการของ Kingpin ก่อนที่จักรวาลจะพังทลาย

จุดเด่นของแอนิเมชัน
สไตล์ภาพที่ปฏิวัติวงการ – ใช้เทคนิคผสมระหว่าง 3D และเอฟเฟกต์การ์ตูนคอมิก เช่น เส้นสกรีนโทน เสียงเอฟเฟกต์ตัวอักษร และเฟรมเรตที่ปรับให้เหมือนภาพวาดมือ
การเล่าเรื่องที่เข้าถึงง่ายแต่ลึกซึ้ง – แม้จะมีตัวละครหลายเวอร์ชัน แต่เนื้อเรื่องโฟกัสไปที่การเติบโตของ Miles ทำให้ผู้ชมเชื่อมโยงกับเขาได้
ตัวละครหลากหลายและมีเสน่ห์ – แต่ละสไปเดอร์มีบุคลิกชัดเจนและมุกตลกที่เข้ากับโทนเรื่อง
ซาวด์แทร็กสุดเท่ – เพลงอย่าง “Sunflower” ของ Post Malone และ Swae Lee กลายเป็นเพลงประจำตัวของ Miles และได้รับความนิยมไปทั่วโลก
ประเด็นแรงบันดาลใจ – สื่อสารว่าทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือมาจากไหน

รีวิวแบบละเอียด
Into the Spider-Verse เป็นตัวอย่างของการใช้สื่อแอนิเมชันในการเล่าเรื่องซูเปอร์ฮีโร่ที่แตกต่างจากทุกสิ่งที่มาก่อนหน้านี้ การผสมผสานสไตล์คอมิกกับภาพเคลื่อนไหว 3D ทำให้ทุกเฟรมมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยพลังงาน เหมือนเรากำลังอ่านการ์ตูนที่ขยับได้จริง ๆ
Miles Morales เป็นตัวเอกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เขาไม่ใช่ฮีโร่ที่พร้อมตั้งแต่ต้น แต่ต้องผ่านการล้มเหลว ความไม่มั่นใจ และแรงกดดันจากการเปรียบเทียบตัวเองกับ Spider-Man คนก่อน การเติบโตของเขาจึงทั้งอบอุ่นและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชม โดยเฉพาะวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวตน
นอกจากตัวเอกแล้ว เหล่าสไปเดอร์จากมิติอื่นก็สร้างสีสันได้อย่างยอดเยี่ยม Peter B. Parker ให้มุมมองแบบรุ่นพี่ที่ล้มเหลวและกลับมาสู้ใหม่ Gwen Stacy มีเสน่ห์และความมั่นใจ Spider-Man Noir และ Spider-Ham เติมมุกฮา ส่วน Peni Parker ก็นำกลิ่นอายอนิเมะญี่ปุ่นเข้ามาผสมผสานอย่างลงตัว
ในแง่ของจังหวะการเล่าเรื่อง หนังจัดสมดุลระหว่างฉากแอ็กชันและฉากซึ้งได้ดีมาก ฉากไคลแมกซ์ที่ Miles โชว์ท่า “Leap of Faith” กลายเป็นหนึ่งในภาพจำของแฟน ๆ ทั่วโลก ขณะที่ซาวด์แทร็กและดนตรีประกอบช่วยขับอารมณ์ให้ทั้งตื่นเต้นและอบอุ่น
สิ่งที่ทำให้หนังนี้พิเศษคือสารที่ส่งถึงผู้ชมว่า ใคร ๆ ก็เป็นสไปเดอร์แมนได้ ประโยค “Anyone can wear the mask” ไม่ได้เป็นเพียงคำพูดเท่ ๆ แต่มันคือการเปิดประตูให้ผู้ชมทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ และทุกวัยรู้สึกว่าตนเองก็สามารถเป็นฮีโร่ในเรื่องราวของตัวเองได้
คะแนนประเมิน (ส่วนตัว)
สไตล์ภาพและงานศิลป์: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5)
การเล่าเรื่องและบท: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5)
ตัวละครและการพัฒนา: ⭐⭐⭐⭐½ (4.5/5)
ดนตรีและซาวด์แทร็ก: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5)
ความคุ้มค่าโดยรวม: 9.7/10