Onimusha 2 Remaster กลับมาลุ้นระทึกกับการต่อสู้ซามูไร เป็นเกมที่มีความสำคัญในวงการเกม Action-Adventure ที่แฟนๆ ต่างรอคอยที่จะได้สัมผัสมันอีกครั้ง หลังจากที่ประสบความสำเร็จในช่วงต้นยุค 2000 เกมนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นผ่านเนื้อหาที่น่าสนใจและระบบการเล่นที่น่าตื่นเต้น ในปี 2025 นี้ Capcom ได้นำเกมที่เป็นที่รักของผู้เล่นมาปัดฝุ่นใหม่ในเวอร์ชัน remaster เพื่อให้แฟนๆ ได้กลับไปสัมผัสประสบการณ์เดิมที่น่าจดจำ พร้อมกับการปรับปรุงกราฟิกและการเล่นให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
การอัปเดตครั้งนี้มาในรูปแบบที่น่าสนใจอย่างมาก โดยมี ผู้กำกับ ของเกมได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับการปรับปรุงและสิ่งที่แฟนๆ ควรคาดหวังจากการกลับมาของเกมนี้ ซึ่งทำให้หลายคนต่างตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสเกมที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ชื่นชอบอย่างสูง

การปรับปรุงกราฟิกและการเล่นในเวอร์ชัน Remaster
หนึ่งในจุดที่ทำให้เกมนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้งคือการปรับปรุง กราฟิก และการเล่น ซึ่งในเวอร์ชัน remaster นี้ Onimusha 2 จะมีการปรับปรุงกราฟิกให้มีความคมชัดและสวยงามยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีการเรนเดอร์ใหม่ที่รองรับการแสดงผลในความละเอียดสูงถึง 4K ทำให้โลกของเกมดูมีชีวิตชีวาและสมจริงมากยิ่งขึ้นสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมภาค 2 เวอร์ชั่นต้นฉบับมาก่อน ตัวเกมมีการเพิ่มอาวุธและไอเทมที่หลากหลายกว่าภาคแรกอยู่ระดับหนึ่ง อีกทั้งปริศนาในเกมที่ไม่ชวนหัวร้อนจนเกินไป อาศัยลองผิดลองถูกสักพักก็จะผ่านได้ไม่ยาก ระบบเด่นที่เพิ่มเข้ามาอย่างแรกคือวิญญาณสีม่วงชนิดใหม่ที่เมื่อเราดูดสะสมมาได้ครบ 5 ดวงก็จะแปลงร่างเป็นอสูร (โอนิ) ที่มีพลังโจมตีเพิ่มขึ้นและเป็นอมตะชั่วคราว โดยเวอร์ชั่นต้นฉบับนั้น เกมจะบังคับให้จูเบแปลงร่างเป็นโอนิทันทีที่เราดูดวิญญาณสีม่วงครบ 5 ดวง แต่ในเวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ได้มีการปรับแก้ให้ผู้เล่นเลือกกดปุ่มแปลงร่างได้ทุกเมื่อหลังจากที่ดูดวิญญาณม่วงครบ 5 ดวง ซึ่งเป็นผลดีกับผู้เล่นอย่างมาก เพราะหลายคนก็อยากเก็บไว้แปลงร่างตอนเจอบอสหรือศัตรูตัวเก่ง ๆ มากกว่า
ในส่วนของการเล่น เกมนี้ยังคงรักษาความสนุกในการต่อสู้ที่ลื่นไหล แต่มีการปรับระบบการควบคุมให้ทันสมัยยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังมีการปรับปรุงระบบการเคลื่อนไหวและการตอบสนองของตัวละครให้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น
การกลับมาของเรื่องราวที่น่าจดจำ
Onimusha 2 ยังคงรักษาเรื่องราวที่ดึงดูดผู้เล่นตั้งแต่ต้นเรื่องไปจนถึงตอนจบ ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถเชื่อมโยงและสัมผัสกับตัวละครต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด ในเกมนี้ Jubei Yagyu ตัวละครหลักที่ผู้เล่นจะได้รับบทบาท จะต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นและต่อสู้กับปีศาจในโลกของซามูไรแม้จะมีการปรับปรุงกราฟิกและระบบการเล่นใหม่แต่ Capcom ก็ยืนยันว่าจะไม่ลบล้างเนื้อหาสำคัญของเรื่องราวดั้งเดิม เพื่อให้แฟนๆ ที่เคยเล่นในเวอร์ชันเดิมได้สัมผัสกับความรู้สึกที่คุ้นเคยในโลกที่พวกเขารัก
โอนิมูฉะ (Onimusha) เป็นหนึ่งในซีรีส์ของ Capcom ที่แฟนเกมเรียกร้องให้มีการคัมแบ็คมากที่สุดซีรีส์หนึ่ง โดยหลังจากภาคหลักภาคล่าสุดที่ชื่อ Dawn of Dreams วางจำหน่ายก็ผ่านมานานถึง 19 ปีแล้ว ซึ่งดูเหมือนทางค่ายก็รับรู้ถึงกระแสความต้องการนี้ จึงได้มีการนำเกม Onimusha ภาคแรกมารีมาสเตอร์เพื่อหยั่งเชิงดูก่อนในปี 2018 กระทั่งเมื่อมีการประกาศเปิดตัวเกม Onimusha: Way of the Sword ที่เป็นภาคใหม่และมีกำหนดวางขายในปี 2026 เลยปล่อย Onimusha 2: Samurai’s Destiny เวอร์ชั่นรีมาสเตอร์ตามมาอีกในปีนี้ ซึ่งทีมงาน Online Station ก็ได้เล่นจนจบและมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันผ่านบทความนี้ ส่วนจะดีสมกับการรอคอย หรือเหมาะเล่นฆ่าเวลารอภาคใหม่ในปีหน้าหรือไม่ เรามีคำตอบมาให้เพื่อน ๆ แล้ว
สิ่งที่ผู้กำกับกล่าวถึงการปรับปรุงในเวอร์ชัน Remaster
ใน A Message from the Director ผู้กำกับของเกมได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาและสิ่งที่ผู้เล่นสามารถคาดหวังจากการกลับมาของเกมในเวอร์ชัน remaster ซึ่งนอกจากกราฟิกใหม่แล้ว ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น การปรับปรุงเสียงและเพลงประกอบเกม รวมถึงการเพิ่มฉากและการปรับสมดุลของเกมเพื่อให้ผู้เล่นใหม่และเก่าได้สนุกไปกับการผจญภัยนี้มากยิ่งขึ้น
ระบบการต่อสู้ที่ได้รับการปรับปรุง
ในเกม Onimusha 2 การต่อสู้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกมนี้โดดเด่น และในเวอร์ชัน remaster นี้ ระบบการต่อสู้ได้มีการปรับปรุงให้มีความลื่นไหลและดียิ่งขึ้น โดยมีการเพิ่มตัวเลือกในการต่อสู้และการใช้ท่าทางพิเศษที่ทำให้ผู้เล่นสามารถต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินกับการโจมตีและการป้องกันในแบบที่หลากหลาย รวมไปถึงการใช้การโจมตีแบบคอมโบเพื่อเพิ่มความสนุกในการเล่นเกม

การปรับปรุงด้านเสียงและการออกแบบ
นอกจากกราฟิกและการเล่นที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว Onimusha 2 Remaster กลับมาลุ้นระทึกกับการต่อสู้ซามูไร ยังมีการปรับปรุงด้าน เสียง และ การออกแบบเสียง เพื่อเพิ่มความสมจริงในการเล่น โดยมีการบันทึกเสียงใหม่ทั้งหมดสำหรับบทสนทนาและเพลงประกอบ ทำให้ผู้เล่นสามารถดื่มด่ำกับประสบการณ์ในเกมได้มากขึ้น เนื้อเรื่องในเกมภาค 2 จะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากภาคแรก หลังจากที่ฟอร์ตินบราส วายร้ายจากภาคแรกได้ถูกซามาโนสึเกะสังหารไปไม่นาน โอดะ โนบุนากะ ก็ได้ออกมาบัญชาการกองทหารปีศาจด้วยตัวเองโดยมีเป้าหมายคือยึดครองแผ่นดินญี่ปุ่น รวมถึงต้องการขจัดทุกเสี้ยนหนามที่อาจเป็นภัยแก่ตนในภายภาคหน้า และหนึ่งในนั้นคือหมู่บ้านยางิว ทว่าตอนที่กองทัพปีศาจบุกถล่มหมู่บ้านยางิวนั้น จูเบ ยางิว ตัวเอกของภาคนี้ไม่อยู่ที่หมู่บ้านพอดี ทำให้พอกลับมาถึงก็พบว่าชาวบ้านทุกคนถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว แต่ระหว่างนั้นจูเบก็ได้เจอกับทาคาโจ เทพประจำหมู่บ้านที่อ้างว่าเป็นแม่แท้ ๆ ของจูเบ พร้อมกับมอบพลังแห่งยักษ์ให้และบอกว่าการจะปราบโนบุนากะได้นั้นจำเป็นจะต้องตามหาลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ลูกให้ครบเสียก่อน การผจญภัยของจูเบเลยเริ่มต้น ณ จุดนั้น
การปรับปรุงด้านเสียงยังช่วยให้ผู้เล่นได้สัมผัสถึงอารมณ์และความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในระหว่างการต่อสู้และการสำรวจโลกของ Onimusha 2 ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
บทสรุป การกลับมาของเกมที่ทุกคนรอคอย
การกลับมาของ Onimusha 2 Remaster กลับมาลุ้นระทึกกับการต่อสู้ซามูไร ในเวอร์ชัน remaster ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ไม่เพียงแต่รักษาเสน่ห์ของเกมเดิม แต่ยังเพิ่มความสนุกและประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้เล่น ด้วยการปรับปรุงกราฟิก ระบบการเล่น และการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ผู้เล่นทั้งเก่าและใหม่จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การเล่นที่สมจริงและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นแฟนของ Onimusha 2 หรือสนใจในเกมเวอร์ชัน remaster นี้ อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้กับเพื่อนๆ ของคุณ และแสดงความคิดเห็นด้านล่างเกี่ยวกับสิ่งที่คุณคาดหวังจากการกลับมาของเกมนี้ในเวอร์ชันใหม่!