NoOtherChoice

No Other Choice นักวิจารณ์ทั่วโลกเทคะแนน 100% เต็มให้ ตลกร้ายเรื่องล่าสุดของพัคชานอุค

NoOtherChoice เมื่อมีชื่อของ พัคชานอุค (Park Chan-wook) ปรากฏบนโปสเตอร์ภาพยนตร์ ความคาดหวังของคนดูหนังทั่วโลกก็พุ่งทะยานสูงลิ่วทันที เพราะผู้กำกับชาวเกาหลีใต้คนนี้คือผู้ที่เคยสร้างปรากฏการณ์สั่นสะเทือนวงการมาแล้ว ตั้งแต่ไตรภาคแก้แค้นสุดโหดอย่าง Oldboy ไปจนถึงความวิจิตรบรรจงใน The Handmaiden และล่าสุดกับหนังตลกร้ายระทึกขวัญเรื่องใหม่ของเขา “No Other Choice” (어쩔 수가 없다) ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ที่หาได้ยากยิ่งในโลกภาพยนตร์ นั่นคือการกวาดคะแนนจากนักวิจารณ์ระดับโลกไปแบบ 100% เต็ม บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ชนิดที่แทบจะเรียกได้ว่าไม่มีที่ติ

“No Other Choice” ดัดแปลงมาจากนิยายเสียดสีสุดมืดหม่นเรื่อง The Ax ของ Donald E. Westlake ว่าด้วยเรื่องราวของ พัคชานอุค (รับบทโดยนักแสดงมากฝีมืออย่าง อีบยองฮุน) ชายวัยกลางคนผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ทำให้ชีวิตพลิกผันอย่างไม่คาดคิด เมื่อเขาถูกปลดออกจากงานที่บริษัทผลิตกระดาษอย่างไม่ยุติธรรม ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำและตำแหน่งงานหายาก มันซูตัดสินใจทำสิ่งที่เกินกว่าใครจะจินตนาการได้ นั่นคือการ กำจัด คู่แข่งทุกคนที่สมัครงานตำแหน่งเดียวกับเขา!

NoOtherChoice

ฟังดูบ้าคลั่งใช่ไหมล่ะ? แต่ภายใต้โครงเรื่องที่ชวนให้ขำพรืดและขนหัวลุกไปพร้อมกัน พัคชานอุคไม่ได้แค่เล่าเรื่องฆาตกรต่อเนื่อง หากแต่เขากำลังใช้ความตลกร้ายเป็นมีดผ่าตัดอันคมกริบเพื่อ เปิดโปงความบ้าคลั่งของระบบทุนนิยม

นักวิจารณ์ส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่านี่คือภาพยนตร์ที่กล้าหาญและฉลาดหลักแหลมที่สุดแห่งปี The Guardian ยกย่องว่ามันคือ “ภาพยนตร์เสียดสีสภาวะของชาติอันน่าตื่นตะลึง” ขณะที่ IndieWire ชี้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างสมดุลที่เปราะบางระหว่างความเห็นอกเห็นใจตัวเอกกับความโหดร้ายของการกระทำได้อย่างน่าทึ่ง

สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ “ไม่เหมือนใคร” และสมควรได้รับคะแนนเต็ม ก็คือการที่พัคชานอุคใช้สไตล์การกำกับที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและลูกเล่นแพรวพราว แม้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการฆาตกรรม แต่ฉากแอคชั่นหรือฉากตลกกลับถูกจัดวางอย่างแม่นยำ ราวกับเป็นผู้กำกับวงออร์เคสตราที่คุมเครื่องดนตรีทุกชิ้นให้ออกมาเป็นเพลงซิมโฟนีที่ทั้งวิจิตรและผิดเพี้ยนไปพร้อมกัน

อีบยองฮุน ที่หลายคนรู้จักจาก Squid Game ได้รับคำชมอย่างท่วมท้นว่าเป็นการแสดงแห่งปี เขาถ่ายทอดความสิ้นหวังของชายผู้ถูกระบบสังคมบีบคั้นออกมาได้อย่างสมจริง จนผู้ชมรู้สึกสับสนว่าจะสงสารหรือสมน้ำหน้าดี เพราะเขาไม่ใช่แค่อาชญากร แต่เป็นเหยื่อของ “สงครามชนชั้นแรงงาน” ที่ถูกบีบให้ต้องต่อสู้กับเพื่อนร่วมชะตากรรมเพื่อความอยู่รอด

สรุปได้เลยว่าจึงไม่ใช่แค่หนังอาชญากรรมทั่วไป มันคือ “หนังแห่งยุคสมัย” ที่สะท้อนความตึงเครียดของโลกปัจจุบันได้อย่างเจ็บแสบและตรงไปตรงมา มันทำให้เราหัวเราะออกมาอย่างขื่นขมกับความบ้าบอที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ ก่อนจะตระหนักได้ว่า… ความบ้าคลั่งเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในโลกแห่งความเป็นจริงของเราเอง และนั่นคือเหตุผลที่นักวิจารณ์ทั้งโลกต่างพร้อมใจกันเทคะแนนให้แบบไม่มีข้อกังขา นี่คือภาพยนตร์ที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Scroll to Top