
“My Oni Girl“ หรือชื่อไทยว่า “มาย โอนิ เกิร์ล“ เป็นภาพยนตร์แอนิเมชันจากสตูดิโอโคโลริโด (Studio Colorido) ที่เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์อันแสนอบอุ่นระหว่างเด็กชายขี้อายกับสาวน้อยโอนิ (ยักษ์) ที่เปิดเผยเรื่องราวการเติบโตและการยอมรับในตัวเอง

เรื่องย่อและจุดเริ่มต้นของมิตรภาพ
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่จังหวัดยามากาตะ เมื่อ ฮิอิรากิ เด็กชายขี้อายที่ไม่กล้าปฏิเสธคำขอของใคร เขามักจะทำตามคำขอของเพื่อนๆ เสมอจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ในคืนฤดูร้อนหนึ่ง ฮิอิรากิได้พบกับ สึมุกิ เด็กสาวปริศนาจากโลกโอนิ (ยักษ์) ที่ตามหา “ลูกชายของโอนิ” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เธอกลับไปบ้านเกิดได้ สึมุกิเป็นเด็กสาวที่ใจร้อนและจริงใจอย่างตรงไปตรงมา ต่างจากฮิอิรากิอย่างสิ้นเชิง
ทั้งคู่ได้เริ่มต้นเดินทางร่วมกันเพื่อตามหาสิ่งที่สึมุกิเรียกว่า “ลูกชายของโอนิ” และในระหว่างการเดินทาง ฮิอิรากิก็เริ่มเรียนรู้ที่จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น โดยมีสึมุกิเป็นแรงบันดาลใจ

จุดไคลแมกซ์และความจริงที่ถูกซ่อนไว้
ขณะที่ทั้งคู่เริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น ฮิอิรากิก็ได้รับรู้ความจริงว่า… สึมุกิกำลังป่วยและต้องรีบหา “ลูกชายของโอนิ” เพื่อนำกลับไปยังโลกของเธอ ไม่เช่นนั้นเธออาจจะไม่มีชีวิตรอด
ในตอนท้ายของเรื่อง สึมุกิ ได้เปิดเผยความจริงที่สำคัญที่สุด: เธอไม่ได้ตามหาลูกชายของโอนิ แต่ตามหาตัวฮิอิรากิเอง! โดยมีเหตุผลว่าในอดีตนานมาแล้ว ฮิอิรากิได้ให้สัญญาบางอย่างกับเธอและได้มอบ “หาง” ของเขาให้กับเธอ แต่เธอกลับทำหายไป
ความจริงก็คือ พ่อของสึมุกิเป็นเพื่อนสนิทของฮิอิรากิ และในตอนเด็กๆ พวกเขาเคยเล่นด้วยกัน แต่สึมุกิเข้าใจผิดมาโดยตลอด เธอคิดว่าเธอเป็นลูกของโอนิ ส่วนฮิอิรากิคือลูกชายของมนุษย์ และด้วยความที่ฮิอิรากิขี้อาย ทำให้เขาเก็บความลับนี้ไว้

บทสรุปที่น่าประทับใจ
เมื่อทั้งคู่ได้เปิดใจคุยกัน ฮิอิรากิได้ยอมรับในตัวเองและไม่กลัวที่จะปฏิเสธอีกต่อไป ส่วนสึมุกิก็ได้เรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กับความรู้สึกของตัวเองมากขึ้น
ภาพยนตร์จบลงด้วยฉากที่ สึมุกิกลับไปโลกโอนิพร้อมกับฮิอิรากิ ซึ่งฮิอิรากิได้พบกับพ่อของสึมุกิที่เป็นโอนิ และได้เข้าใจความจริงทั้งหมด “My Oni Girl“ จบลงด้วยการที่ตัวละครทั้งสองได้เติบโตขึ้นจากมิตรภาพ และได้เรียนรู้ว่าการเป็นตัวเองและซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต