
ตัวตนที่ลูลู่เชื่อมั่น
Lulu Is a Rhinoceros เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นด้วยการแนะนำตัวละครหลักคือ ลูลู่ ซึ่งภายนอกดูเหมือนจะเป็นสุนัขพันธุ์บูลด็อก แต่เมื่อเธอมองตัวเองในกระจก เธอเห็นตัวเองเป็น แรด เธอตื่นขึ้นมาทุกวันด้วยความมั่นใจและย้ำกับตัวเองด้วยคาถาที่ว่า “ฉันกล้าหาญ ฉันใจดี และฉันรักในสิ่งที่ฉันเป็น” (I’m brave, I’m kind, and I love who I am)
สำหรับลูลู่ การเป็นแรดไม่ใช่เรื่องของรูปร่างหน้าตา แต่เป็นเรื่องของจิตวิญญาณและความเชื่อ เธอเชื่อมั่นในการทำความดีและใช้ชีวิตตามคำสอนของ เรจิน่า แรดไอดอล ของเธอที่ส่งเสริมให้ทุกคนทำความเมตตาหนึ่งอย่างในทุกๆ วันเพื่อยกระดับชุมชน

การเดินทางเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
วันนี้เป็นวันสำคัญที่กำลังจะมีงานเฉลิมฉลองความสามัคคีที่สวนสาธารณะ และลูลู่ก็ตั้งใจจะไปงานนี้ ระหว่างเดินทาง เธอได้พบกับเพื่อนใหม่ที่คอยให้กำลังใจอย่าง คอรีย์ (Cory) วัวที่มีรองเท้าเก๋ไก๋ และ ฮิปฮอป (Hip-Hop) กระต่ายบีทบ็อกซ์ รวมถึง ฟลอม ฟลอม (Flom Flom) นกกระจิบน้อยผู้ซื่อสัตย์ แต่การเดินทางของเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายจากตัวละครอื่นๆ ที่เป็นพวก ช่างตัดสิน (Judgmental)
ลูลู่ถูก ลดทอนคุณค่า และถูกท้าทายตัวตนจากคนรอบข้างอย่างต่อเนื่อง:
- คู่หูไก่ (The Chickens) บอกว่าการจะเป็นแรดได้ต้องมีโคลนปกคลุมตัวและมีหูที่แหลม
- ห่าน (The Goose) บอกว่าแรดต้องส่งเสียง “ฮงก์ๆ” และ “แอ๊ดๆ”
- แมว (The Cat) บอกว่าแรดต้องทำแซนด์วิชเยลลี่แสนอร่อยได้
ด้วยความรู้สึกว่าต้องพิสูจน์ให้ทุกคนยอมรับ ลูลู่จึงพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้ตรงตาม “ภาพลักษณ์ของแรด” ที่คนอื่นต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามหาเขามาติด หรือการพยายามทำสิ่งที่ขัดกับธรรมชาติของตัวเอง ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าและท้อแท้

การค้นพบความจริงสุดท้าย
ลูลู่รู้สึกเศร้าใจที่คนอื่นไม่เห็นเธอเป็นแรดอย่างที่เธอเป็น แต่เธอก็ได้รับกำลังใจจากคอรีย์ ซึ่งสอนเธอถึงพลังของ การเปลี่ยนมุมมองความคิด (perspective) ว่าเรามีอำนาจในการกำหนดเรื่องราวของตัวเองได้ตลอดเวลา
เรื่องราวดำเนินไปสู่จุดไคลแม็กซ์ที่ลูลู่ได้ตระหนักถึงความจริงที่สำคัญที่สุด: การเป็นแรดไม่ใช่เรื่องของเขา หรือผิวหนัง หรือเสียงร้อง แต่มันเป็นเรื่องของความกล้าหาญ ความเมตตา และการยอมรับในตนเอง
แม้จะมีตัวละครที่สงสัยในตัวเธออย่าง ฟินน์ (Finn) ที่ไม่เห็นภาพรวมทั้งหมดของการต่อสู้ภายในของลูลู่ แต่สุดท้าย ลูลู่ก็ได้เรียนรู้ที่จะ ตั้งขอบเขต (put up a boundary) ให้กับเสียงวิจารณ์ที่ไม่จำเป็นจากคนอื่น เพราะมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าเธอเป็นใครและต้องการเป็นอะไร
ฉากจบ Lulu Is a Rhinoceros คือการที่ลูลู่กลับมาพร้อมความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม เธอไม่จำเป็นต้องให้ใครมาตัดสินตัวตนของเธออีกต่อไป เธอจบการผจญภัยด้วยเพลงแห่งการยอมรับในตัวเองที่ชื่อว่า “The Perfect Me” (ฉันที่สมบูรณ์แบบ) ซึ่งมีใจความสำคัญว่า “ฉันที่สมบูรณ์แบบคือฉันเอง” และ “แรดในฝันของฉันก็คือฉันคนนี้” (The rhino of my dreams is me) เป็นการตอกย้ำข้อความสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า คุณสมบูรณ์แบบและดีพอแล้ว ในแบบที่คุณเป็น