🤩 รีวิว Bloody Bunny: The Game: กระต่ายนักฆ่า…แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกกว่าแค่ความ “แอ็กชั่น” สุดเดือด!สวัสดีครับ! วันนี้เรามาเจาะลึกเกมที่สร้างสรรค์โดยฝีมือคนไทยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคาแรคเตอร์แอนิเมชันที่โด่งดังอย่างเกมแอ็กชันแนว Hack-and-Slash สุดเดือด ที่นำเสนอมากกว่าแค่การฟาดฟัน แต่มีเรื่องราวเข้มข้น และสไตล์ที่ไม่เหมือนใครซ่อนอยู่เบื้องหลังความน่ารักปนโหดของตัวละครหลัก!
🐰 จากแอนิเมชันสู่หน้าจอเกม: โลกที่เปลี่ยนไปสู่ความรุนแรง
สิ่งที่ทำให้แตกต่างอย่างชัดเจนคือ จุดกำเนิดและโลกของเกม โดยเฉพาะตัวเอกอย่าง “บันนี่” กระต่ายผ้าสุดโหดถือมีด ที่เบื้องหลังคือวิญญาณของเด็กสาวผู้โกรธแค้น ไม่ใช่แค่กระต่ายธรรมดาที่อยากฆ่าใคร!
- แก่นเรื่องหลัก: ตัวเกมหยิบยกเอาเรื่องราวจากเว็บซีรีส์มาสานต่อ ในโลกที่องค์กรชั่วร้ายได้เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นตุ๊กตา แม้ตุ๊กตาส่วนใหญ่จะสูญเสียความทรงจำ แต่บันนี่กลับตื่นขึ้นมาพร้อมกับความทรงจำและความแค้นอันเดือดดาล เป้าหมายของเธอคือการตามหา “มูมู่” น้องสาวที่ถูกเปลี่ยนเป็นตุ๊กตาเช่นกัน และโค่นล้มผู้บงการเบื้องหลังทั้งหมด
- โทนที่ลงตัวระหว่าง “น่ารัก” กับ “เลือดสาด”: นี่คือเสน่ห์ที่เกมไทยเกมนี้ทำได้ดีเยี่ยม! ภาพกราฟิกแบบ 3D ที่น่ารักและสีสันสดใสของโลกและตัวละคร แต่กลับตัดด้วยฉากแอ็กชันที่รวดเร็ว รุนแรง และมีเอฟเฟกต์เลือดสาดที่สะใจคอเกมสายโหด ทำให้เกิดความขัดแย้งที่ดึงดูดใจอย่างประหลาด
⚔️ ระบบการต่อสู้ที่รวดเร็วและถึงใจ (Hack-and-Slash ที่ไม่ต้องคิดมาก)
ในด้าน Gameplay, Bloody Bunny: The Game เป็นเกมแนว Hack-and-Slash ที่เน้นความรวดเร็วและเข้าถึงง่าย ไม่ซับซ้อนจนเกินไป แต่ก็มีลูกเล่นให้ได้สนุกกับการพัฒนาตัวละคร
- ความลื่นไหลของการฟาดฟัน: การเคลื่อนไหวและการต่อสู้ของบันนี่ทำออกมาได้ลื่นไหล ทำให้การวิ่งฟันฝ่าศัตรูนับสิบตัวเป็นไปอย่างสนุกและต่อเนื่อง “Rampage Mode” หรือการโจมตีแบบพุ่งตัว (Warp Attack) เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการต่อสู้กับศัตรูที่หลากหลาย
- คลังอาวุธและการอัปเกรด: บันนี่มีอาวุธหลัก 4 ชนิดให้เลือกใช้ ได้แก่ ดาบ (Main Weapon), ค้อน, บูมเมอแรง และ มีดสั้น (สำหรับโจมตีระยะไกล) ผู้เล่นสามารถนำ “โซล” (Souls) ที่เก็บได้จากการฆ่าศัตรูมาอัปเกรดความสามารถ อัปเกรดความแรงของอาวุธ และปลดล็อกสกิลใหม่ ๆ ได้ที่แคมป์ Bamboo Forest ซึ่งช่วยเพิ่มมิติให้กับการต่อสู้ได้พอสมควร แม้ว่าบางอาวุธอย่างดาบจะรู้สึกว่ามีประโยชน์มากกว่าอาวุธอื่น ๆ ก็ตาม
📌 สิ่งที่ต้องพิจารณา: ข้อจำกัดที่มาพร้อมความท้าทาย
แม้ว่าเกมจะมีจุดเด่นที่น่าสนใจมากมาย แต่ก็ยังมีบางจุดที่เป็น “กับดัก” ที่ผู้เล่นอาจจะต้องทำใจยอมรับ
- ประเด็นมุมกล้อง (Camera Issue): นี่คือปัญหาหลักที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในหลายรีวิว! ในหลายฉาก โดยเฉพาะในพื้นที่แคบ ๆ หรือเมื่อตัวละครอยู่ใกล้กำแพง มุมกล้องมักจะมีปัญหา ทำให้มองเห็นศัตรูได้ไม่ทั่วถึง หรือไม่สามารถหลบการโจมตีได้อย่างลื่นไหล ความหงุดหงิดจากปัญหานี้สามารถบดบังความสนุกของการต่อสู้ที่รวดเร็วไปได้พอสมควร
- ความซ้ำซากและมิติของฉาก: ตัวเกมเน้นการเดินหน้าฆ่าฟันไปเรื่อย ๆ ทำให้ฉากหรือสภาพแวดล้อมไม่ได้มีความซับซ้อน หรือมีองค์ประกอบให้โต้ตอบมากนัก สำหรับผู้เล่นที่คาดหวังเกมแอ็กชันที่มีความหลากหลายของปฏิสัมพันธ์ในฉากอาจจะรู้สึกว่าเกมยังขาดมิติในส่วนนี้
- ความยาวของเกม: เนื้อเรื่องหลักค่อนข้างสั้น สามารถเล่นจบได้ในเวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ซึ่งหากเทียบกับเกมระดับ AAA อาจจะดูน้อยไป แต่เมื่อพิจารณาจากราคาที่ค่อนข้างเป็นมิตร ก็ยังถือว่าคุ้มค่า โหมด Endless ที่มีให้หลังจบเกมจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการยืดอายุการเล่นสำหรับผู้ที่ชอบการต่อสู้ที่ท้าทาย
🌟 สรุป: “คุ้มค่า” ในฐานะผลงานเกมแอ็กชันฝีมือคนไทย
Bloody Bunny: The Game ถือเป็นความพยายามที่น่าชื่นชมของทีมพัฒนาชาวไทยที่นำเอาคาแรคเตอร์อันเป็นที่รักมาสร้างเป็นเกมได้อย่างมีสไตล์! จุดแข็งของมันอยู่ที่ สไตล์ภาพที่โดดเด่น เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และ การต่อสู้แบบ Hack-and-Slash ที่ทำได้ถึงใจ แม้จะมีข้อบกพร่องทางเทคนิคที่เห็นได้ชัดเจนอย่างเรื่อง “มุมกล้อง” และความหลากหลายของฉาก แต่โดยรวมแล้ว ตัวเกมมอบประสบการณ์ความสะใจในการฆ่าฟันได้อย่างเต็มที่
ถ้าคุณเป็นแฟนคลับของคาแรคเตอร์ Bloody Bunny อยู่แล้ว หรือกำลังมองหาเกมแอ็กชันลุยด่านที่ไม่ต้องคิดซับซ้อนมาก เน้นความมันส์ และอยากสนับสนุนผลงานคุณภาพจากคนไทยในราคาที่เข้าถึงง่าย… เกมนี้คือตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง! เพียงแค่เตรียมใจรับมือกับปัญหาเรื่องมุมกล้องไว้สักหน่อย คุณก็จะได้รับประสบการณ์การเป็น “กระต่ายนักฆ่า” ที่ดุดันและน่าจดจำแน่นอน!




