🍿 รีวิวแบบคนกันเอง: “Predator: Badlands พรีเดเตอร์ แดนเถื่อน” ปฐมบทนักล่า… ที่ดันกลายเป็นหนังน่ารักเฉย!เฮ้ย! ใครจะไปคิดว่าหนังในแฟรนไชส์นักล่าสุดโหดอย่าง “Predator” ที่เราคุ้นเคยกับความดิบ ความเลือดสาด และความตึงเครียดของการไล่ล่า… จะมีวันที่กลายมาเป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกว่า… “ทำไมน่ารักงี้อ่ะ!” นี่คือความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาหลังจากดู “Predator: Badlands พรีเดเตอร์ แดนเถื่อน” จบเลยนะ
👽 จุดเริ่มต้นของ ‘ปฐมบทนักล่า..ใหม่’ ที่อบอุ่นหัวใจ?
ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่หนัง Predator แบบที่เราเคยดูมาเลย! ผู้กำกับ แดน แทคทินเบิร์ก (คนที่ปลุกชีพแฟรนไชส์ได้สุดปังจาก Prey) ได้กลับมากุมบังเหียนและพาเราไปรู้จักกับ ‘เดค’ (รับบทโดย ดิมิทริอุส ชูสเตอร์-โคโลอามาทังกี) พรีเดเตอร์หนุ่มน้อยจากเผ่าเยาต์จาที่ดันไปทำอะไรผิดใจเผ่า เลยถูกขับไล่ออกจากบ้านเกิดอย่างไม่ทันตั้งตัว…
เออ! ฟังไม่ผิดหรอก พรีเดเตอร์ถูกไล่ออก แล้วต้องระหกระเหินมาตกที่ดาวอันตรายที่ไม่คุ้นเคย แถมยังมาเจอ ‘คู่หู’ ที่โลกไม่คาดคิดอย่าง “ธีอา” (แอล แฟนนิง) หุ่นยนต์แอนดรอยด์สาวครึ่งท่อนที่ถูกทิ้งไว้กลางป่ามรณะอีก!

🤖 เคมีสุดแปลกที่ลงตัวระหว่างนักล่ามือใหม่กับหุ่นยนต์ไร้ขา
ตรงนี้แหละคือความดีงามและสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ “น่ารัก” เกินเบอร์ไปมาก! จากที่เคยเป็นนักล่าผู้โดดเดี่ยว เดคกลับต้องตระบัดสัตย์ มาผูกมิตรกับธีอาที่ถึงแม้จะเป็นแค่หุ่นยนต์ครึ่งท่อนไร้ขา แต่พลังแอ็กชันและอินเนอร์ของแอล แฟนนิงคือจัดเต็มชนิดที่ว่าหุ่นยนต์มีหัวใจจริงๆ
- เดค: พรีเดเตอร์หนุ่มที่ต้องพิสูจน์ตัวเองในฐานะ “คนนอก” เขาไม่ได้มาล่ามนุษย์ แต่มาล่า “สุดยอดศัตรู” ที่อันตรายที่สุดบนเกาะ เพื่อกลับเข้าเผ่า
- ธีอา: หุ่นยนต์ที่ดูภายนอกเย็นชา แต่กลับเป็นเหมือน “พี่เลี้ยง” หรือ “สหาย” ที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจเดคในการเดินทางครั้งนี้
ลองนึกภาพ: พรีเดเตอร์ตัวโต ๆ ที่ดูดุดัน ต้องมาพึ่งพาอาศัยหุ่นยนต์ที่ไม่มีขากลิ้งไปมา แล้วสื่อสารกันด้วยภาษาท่าทาง/เสียงประหลาด ๆ คือมันมีความ ‘Buddy Movie’ ที่โคตรน่าเอ็นดูซ่อนอยู่เต็มไปหมด! มันไม่ใช่ความน่ารักแบบคิกขุนะ แต่มันคือความน่ารักที่เกิดจาก ‘มิตรภาพต่างสายพันธุ์’ ที่เราไม่เคยเห็นในหนัง Predator ภาคไหนเลย! มันเติมเต็ม ‘หัวใจ’ ให้กับเส้นทางนักล่าที่แต่เดิมมีแต่ความโหดร้าย
🔪 ฉากแอ็กชันก็ยังดุดัน…แต่มี ‘ใจ’ นำทาง
ถึงจะบอกว่าน่ารัก แต่เรื่องความมันและความดิบเถื่อนตามสไตล์ Predator ก็ไม่ได้ลดลงเลยนะ! ฉากแอ็กชันยังคงทำได้ดีตามมาตรฐาน มีการใช้เทคโนโลยีของพรีเดเตอร์และสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายของ “แดนเถื่อน” ที่ผู้สร้างเปิดเผยว่าอาจเป็น “ดาวบ้านเกิดของพรีเดเตอร์” หรือดาวที่อันตรายสุด ๆ มาเป็นองค์ประกอบในการต่อสู้แต่สิ่งที่แตกต่างคือ “แรงจูงใจ” ในการล่าของเดคครั้งนี้ มันไม่ใช่แค่การฆ่าเพื่อล่าเพื่อความสนุก แต่เป็นการต่อสู้เพื่อ “เกียรติยศ” และ “การยอมรับ” ในเผ่าพันธุ์ของตัวเอง แถมยังเป็นการต่อสู้ที่มีเพื่อนร่วมทางคอยหนุนหลัง (ถึงเพื่อนจะไม่มีขาและเป็นหุ่นยนต์ก็เถอะ!) มันเลยทำให้ทุกฉากบู๊มีความหมายและอัดแน่นไปด้วยพลังใจ
🌟 สรุป: ต้องดูไหม?
ต้องดูสิ! ถ้าคุณเป็นแฟน Predator อยู่แล้ว คุณจะได้เห็นการ “รีเซ็ตค่า” ครั้งใหม่ที่ยังคงความเคารพต่อจักรวาลเดิม แต่ก็กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยการใส่ ‘ความซาบซึ้ง’ และ ‘มิตรภาพ’ ที่ไม่เคยมีมาก่อนเข้าไปพรีเดเตอร์ แดนเถื่อน เป็นเหมือนการปูฐานใหม่ของตำนานนักล่า ที่ทำให้เราได้เห็นอีกด้านของสิ่งมีชีวิตที่แสนดุดันนี้ว่า… จริง ๆ แล้วนักล่าก็มีหัวใจ แล้วบางครั้ง… นักล่าก็เป็น ‘ผู้ถูกล่า’ ที่ต้องการใครสักคนมาเป็นเพื่อนร่วมทาง! มันคือหนังที่ ฟูลฟีล และให้รสชาติที่แปลกใหม่ เป็นการเริ่มต้นปฐมบทนักล่าที่ดู เด็ดเดี่ยว ทระนง และ “น่ารักที่สุด” ในแฟรนไชส์นี้เลยจริง ๆ!หนังยาวประมาณ 107 นาที (หรืออาจจะ 115 นาทีตามข้อมูลที่แตกต่างกัน) แต่รับรองว่าคุณจะลุ้นและเอาใจช่วยเจ้าพรีเดเตอร์หนุ่มกับหุ่นยนต์คู่หูจนนาทีสุดท้ายแน่นอน!




