รีวิว Shadow and Bone ซีรีส์แฟนตาซีเวทมนตร์จาก Netflix เรื่องราวของหญิงสาวผู้มีพลังแห่งแสง ที่ต้องต่อสู้กับความมืดและชะตากรรมในโลกแห่งสงครามและเวทมนตร์สุดอลังการ
ชื่อเรื่อง: Shadow and Bone — ตำนานแห่งพลังแสงและเงา
ประเภท: แฟนตาซี / เวทมนตร์ / ผจญภัย / ดราม่า
ผู้สร้าง: เอริค ไฮเซอร์เรอร์ (Eric Heisserer)
นักแสดงนำ: เจสซี เม ลี (Jessie Mei Li), เบน บาร์นส์ (Ben Barnes), อาร์ชี เรโนซ์ (Archie Renaux), โซอี้ วานาเมคเกอร์ (Zoë Wanamaker)
จำนวนซีซัน: 2 ซีซัน
ออกอากาศทาง: Netflix
🌒 เรื่องย่อ
ในโลกที่เต็มไปด้วยสงครามและพลังลึกลับ “ตำนานแห่งพลังแสงและเงา” ถ่ายทอดเรื่องราวของ “อาลินา สตาร์คอฟ” หญิงสาวกำพร้าที่ทำงานเป็นนักวาดแผนที่ในกองทัพแห่งราฟกา ประเทศที่ถูกแบ่งแยกโดย “ผืดแห่งเงา” — ทะเลมืดอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยปีศาจกินคน
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่ออาลินาค้นพบว่าเธอมีพลังในตำนาน “The Sun Summoner” หรือผู้เรียกแสง ผู้มีความสามารถในการสร้างแสงสว่างเพื่อทำลายผืดแห่งเงา เธอกลายเป็นความหวังเดียวของอาณาจักร และตกเป็นเป้าหมายของ “นายพลคิริแกน” หรือ The Darkling ชายผู้มีพลังแห่งความมืดที่ต้องการใช้เธอเพื่อสร้างโลกใหม่ตามอุดมการณ์ของตน
ระหว่างที่อาลินาต้องเรียนรู้การใช้เวทมนตร์และค้นหาความจริงเกี่ยวกับพลังของตน เธอก็เริ่มสงสัยว่าแท้จริงแล้ว ความมืดที่ต้องต่อสู้ อาจไม่ได้อยู่ภายนอก… แต่อยู่ในใจของมนุษย์เอง
🔮 จุดเด่นของซีรีส์
- โลกเวทมนตร์ที่มีระบบเฉพาะตัว – “ตำนานแห่งพลังแสงและเงา” สร้างจักรวาลที่เรียกว่า Grishaverse ซึ่งเต็มไปด้วยกฎของพลังเหนือธรรมชาติและชนชั้นผู้ใช้เวท (Grisha) ที่ถูกแบ่งออกตามความสามารถ เช่น ผู้ควบคุมลม ไฟ โลหิต หรือแสง
- ตัวละครมีมิติ – อาลินาเป็นตัวแทนของหญิงสาวธรรมดาที่ต้องรับภาระเกินตัว ส่วน “The Darkling” คือวายร้ายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเศร้า ทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งรักและเกลียดในเวลาเดียวกัน
- โปรดักชันอลังการ – ทั้งฉาก ผ้าคลุม เสื้อเกราะ และแสงสีในโลกเวทมนตร์ทำออกมาได้งดงามราวภาพวาดยุโรปตะวันออกผสมรัสเซีย
- เส้นเรื่องคู่ที่ลงตัว – นอกจากเรื่องหลักของอาลินา ยังมีเส้นเรื่องของ “แก๊งโจร The Crows” ที่เพิ่มสีสันและอารมณ์ขันให้ซีรีส์แบบลงตัว
🕯️ รีวิวโดยรวม
“Shadow and Bone” คือซีรีส์แฟนตาซีที่มอบความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิยายเวทมนตร์ระดับโลก แต่ถ่ายทอดออกมาอย่างร่วมสมัย ซีรีส์ไม่ได้มีเพียงฉากต่อสู้และพลังวิเศษสุดตระการตาเท่านั้น แต่ยังมีเนื้อหาที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับอำนาจ ความเชื่อใจ และการค้นหาตัวตน
เบน บาร์นส์ แสดงได้อย่างยอดเยี่ยมในบทของ The Darkling เขามีทั้งความลึกลับและเสน่ห์ชวนหลงใหล ส่วนเจสซี เม ลี ก็รับบท “อาลินา” ได้อย่างน่าประทับใจ ถ่ายทอดอารมณ์ของหญิงสาวที่ต้องต่อสู้กับชะตาและความกลัวภายในใจได้อย่างนุ่มนวลแต่ทรงพลัง
แม้บางจังหวะของเรื่องอาจเดินช้าในช่วงแรก แต่ซีรีส์ค่อย ๆ ปล่อยปม ความลับ และการหักมุมให้คนดูได้ลุ้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะตอนท้ายที่ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่า “ระหว่างแสงกับเงา อะไรคือสิ่งที่แท้จริง?”
คะแนนรีวิว: ⭐ 8.5/10
แนวแนะนำ: สำหรับแฟน ๆ ของซีรีส์อย่าง The Witcher หรือ His Dark Materials ที่ชื่นชอบโลกเวทมนตร์ซับซ้อนและตัวละครที่มีทั้งแสงและเงาในจิตใจ
