
สัมผัสความสยองใน The Haunting of Hill House ฮิลล์เฮาส์ บ้านกระตุกวิญญาณ ซีรีส์สยองขวัญดราม่าที่เล่าเรื่องครอบครัวต้องเผชิญปีศาจและวิญญาณร้ายในคฤหาสน์ต้องสาป ผสมความหลอนกับดราม่าครอบครัวได้อย่างเข้มข้น
แนว: สยองขวัญ, ดราม่า, ปีศาจ, ผี
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
จำนวนซีซัน: 1 (จบในตัว แต่มีจักรวาลเดียวกันกับ The Haunting of Bly Manor)
สตรีมมิ่ง: Netflix
📖 เรื่องย่อ
ซีรีส์ดัดแปลงจากนวนิยายสยองขวัญคลาสสิกของ Shirley Jackson เล่าเรื่องครอบครัว แครน ที่เคยอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ “ฮิลล์เฮาส์” ซึ่งเต็มไปด้วยวิญญาณและปีศาจร้าย เหตุการณ์ในอดีตได้ตามหลอกหลอนลูก ๆ ทุกคนแม้เติบโตเป็นผู้ใหญ่
เรื่องราวถูกเล่าผ่าน สองเส้นเวลา คือ
อดีต: ตอนที่ครอบครัวย้ายเข้าไปอยู่ในฮิลล์เฮาส์
ปัจจุบัน: เมื่อเหล่าพี่น้องเติบโตขึ้นและต้องกลับมาเผชิญหน้ากับความจริงและปีศาจจากอดีตอีกครั้ง

⭐ นักแสดงหลัก
Michiel Huisman รับบท Steven Crain – พี่ชายคนโต นักเขียนที่ไม่เชื่อในเรื่องผี
Elizabeth Reaser รับบท Shirley Crain – พี่สาวที่ทำอาชีพบ้านศพ ต้องเผชิญความตายทุกวัน
Oliver Jackson-Cohen รับบท Luke Crain – น้องชายที่ติดยา พยายามหนีจากบาดแผลในอดีต
Victoria Pedretti รับบท Nell Crain – ฝาแฝดผู้ถูกปีศาจหลอกหลอนหนักที่สุด
Carla Gugino รับบท Olivia Crain – แม่ที่ถูกอิทธิพลของบ้านครอบงำ
Henry Thomas รับบท Hugh Crain – พ่อที่พยายามปกป้องครอบครัวจากคำสาป
💡 จุดเด่นของซีรีส์
สร้างบรรยากาศสยองได้อย่างมีศิลปะ ไม่ใช่แค่การ “ตกใจผีโผล่” แต่เป็นความหลอนแบบค่อย ๆ กัดกินหัวใจ
การเล่าเรื่องสลับเส้นเวลา ทำให้ปริศนาค่อย ๆ คลี่คลาย
ปีศาจและผีในบ้านเป็นสัญลักษณ์สะท้อนบาดแผลทางใจของแต่ละตัวละคร
งานภาพและการถ่ายทำมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะตอนที่ถ่ายแบบ “ลองเทค” ยาว ๆ

📝 รีวิว
The Haunting of Hill House ไม่ใช่แค่ซีรีส์ผีหลอน แต่ยังเป็นซีรีส์ดราม่าครอบครัวที่เข้มข้น มันเล่าเรื่อง “การสูญเสีย, บาดแผลในวัยเด็ก, และการเผชิญกับความจริง” ได้อย่างสะเทือนใจ
แฟน ๆ ต่างยกย่องว่าซีรีส์เรื่องนี้ทำให้ “ผี” ไม่ใช่แค่ตัวน่ากลัว แต่เป็นภาพแทนของความเจ็บปวดในใจมนุษย์ ได้คะแนน IMDb 8.6/10 และ Rotten Tomatoes ให้ถึง 93%
🎬 สรุปรีวิว
ฮิลล์เฮาส์ บ้านกระตุกวิญญาณ เป็นซีรีส์สยองขวัญที่มากกว่าการเล่าเรื่องผีหลอก มันคือการผสมผสานระหว่าง ความหลอนเหนือธรรมชาติ กับ ดราม่าครอบครัวสุดเข้มข้น เรื่องราวเล่าผ่านสองเส้นเวลา ทั้งอดีตและปัจจุบัน ทำให้ความลับและบาดแผลในใจค่อย ๆ ถูกเปิดเผย
สิ่งที่โดดเด่นคือ
บรรยากาศกดดัน น่ากลัวแบบไม่พึ่งแค่ “ผีโผล่” แต่ใช้ความเงียบและเงามืดได้อย่างทรงพลัง
ตัวละครทุกคนมีมิติ บทสะท้อนบาดแผลชีวิตและการสูญเสียอย่างลึกซึ้ง
งานภาพและการกำกับประณีต โดยเฉพาะตอนที่ใช้ “ลองเทค” ยาว ๆ สร้างอารมณ์ร่วมได้ยอดเยี่ยม
IMDb ให้คะแนน 8.6/10 และ Rotten Tomatoes สูงถึง 93% แสดงให้เห็นว่าถูกใจทั้งนักวิจารณ์และผู้ชม