ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง Gnome Alone ออกฉายในปี 2017 และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านแพลตฟอร์ม Netflix ในปีถัดมา โดยเป็นผลงานการกำกับของ ปีเตอร์ เลแปนิโอติส และอำนวยการสร้างโดย จอห์น เอช. วิลเลียมส์ ผู้สร้างชื่อดังจากภาพยนตร์แอนิเมชันในตำนานอย่าง Shrek
ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ โคลอี้ เด็กสาววัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต เธอต้องย้ายบ้านจากชีวิตในเมืองที่คุ้นเคยไปสู่เมืองเล็กๆ ที่เงียบเหงาชื่อว่าเทนเดอร์วิลล์ พร้อมกับแม่ของเธอ สถานที่แห่งใหม่นี้คือบ้านเก่าที่มีสนามหญ้าหน้าบ้านซึ่งเต็มไปด้วยตุ๊กตาโนมสวนที่ดูเชยและน่าเบื่อสำหรับโคลอี้เป็นอย่างยิ่ง เธอตั้งใจจะขายบ้านหลังนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้กลับไปใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการ
ในขณะที่โคลอี้กำลังพยายามปรับตัวและหาทางเข้ากับเพื่อนใหม่ที่โรงเรียน เธอได้บังเอิญค้นพบความลับที่น่าเหลือเชื่อของบ้านหลังนี้ นั่นคือตุ๊กตาโนมสวนเหล่านั้นไม่ใช่ตุ๊กตาธรรมดา แต่พวกมันมีชีวิต! และไม่ได้มีชีวิตอยู่เฉยๆ แต่พวกมันกำลังทำสงครามอย่างลับๆ กับสิ่งมีชีวิตสุดประหลาดที่เรียกว่า ทร็อกส์ ซึ่งเป็นตัวประหลาดสีม่วงตัวเล็กๆ ที่มีฟันแหลมคมและกินทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่เว้นแม้แต่หิน
การผจญภัยที่ต้องร่วมมือกัน
การต่อสู้ระหว่างโนมและทร็อกส์เริ่มขึ้นจากความเข้าใจผิดเมื่อโคลอี้ไปหยิบเอาวัตถุสำคัญที่เรียกว่า “กุญแจสำคัญ” (Keystone) ออกมาจากบ้าน ทำให้กำแพงที่กักขังพวกทร็อกส์ไว้ในอีกมิติหนึ่งแตกออก และพวกมันก็หลุดออกมาสู่โลกมนุษย์ได้สำเร็จ
โคลอี้ถูกดึงเข้าสู่การต่อสู้ครั้งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ และเธอได้ร่วมมือกับ เลียม เพื่อนบ้านสุดเนิร์ดที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับโนมและทร็อกส์เป็นอย่างดี ทั้งคู่ต้องร่วมกันเผชิญหน้ากับเหล่าทร็อกส์ที่บุกเข้ามาในบ้านและเริ่มก่อกวนเมือง ในขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้ที่จะร่วมงานกับเหล่าโนมซึ่งมีผู้นำคือ ซูค โนมผู้กล้าหาญและพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องโลกของพวกเขา
ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่ฉากแอ็กชันสนุกๆ แต่ยังสอดแทรกประเด็นการเติบโตของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ โคลอี้ต้องเรียนรู้ที่จะเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ และผู้คนที่แตกต่างจากเธอ รวมถึงต้องทำความเข้าใจว่าการเป็นผู้ใหญ่ไม่ได้หมายถึงการหลีกหนีปัญหา แต่คือการเผชิญหน้าและรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ในที่สุด โคลอี้และเลียมก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และเธอก็ได้เรียนรู้ที่จะเห็นคุณค่าของบ้านหลังใหม่ที่เต็มไปด้วยความลับและมิตรภาพที่คาดไม่ถึง
ความโดดเด่นของภาพยนตร์ Gnome Alone
Gnome Alone โดดเด่นด้วยลายเส้นแอนิเมชันที่สดใสและมีเอกลักษณ์ ตัวละครถูกออกแบบมาให้มีเสน่ห์และน่าจดจำ โดยเฉพาะเหล่าโนมที่มีบุคลิกแตกต่างกันไป รวมถึงตัวละครทร็อกส์ที่ดูน่ารักน่าชังในบางมุม แม้จะเป็นตัวร้ายก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยอารมณ์ขันที่เข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย และยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันและการยอมรับความแตกต่างได้อย่างลงตัว ทำให้เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์แอนิเมชันที่มอบทั้งความบันเทิงและข้อคิดดีๆ ไปพร้อมกัน
