Dying Light การออกเดินทางผจญภัยครั้งที่สี่ด้วยการกระโดดข้ามหลังคาบ้านไปพร้อมกับฟันซอมบี้เป็นสองท่อนในซีรีส์ Dying Light ผมอดคิดไม่ได้ว่าคราวนี้จะรู้สึกสนุกน้อยลงไหมกับเกมสยองขวัญเอาชีวิตรอดแบบปาร์กัวร์สุดโหดนี้ แต่หลังจากเล่นซุกซนและกลิ้งตัวไปมากว่า 40 ชั่วโมง เรื่องราวซีรีส์ Dying Light ก็รู้สึกประหลาดใจและยินดีที่มันยังคงสนุกอยู่มาก แม้ว่าพื้นฐานจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักนับตั้งแต่ Dying Light 2: Stay Human ที่ออกฉายในปี 2022 การเดินทางผ่านเมืองและชนบทอันเดดในยูเรเซียนี้เพิ่มความตื่นเต้นขึ้นไปอีกขั้นด้วยการให้คุณเล่นเป็นมนุษย์ที่ผสม DNA ของมอนสเตอร์ ทำให้คุณสามารถฉีกหัวคนได้ด้วยมือเปล่า มันทั้งน่าพึงพอใจและน่าขนลุก และยังคงน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งที่จะถูกจับได้ในตอนกลางคืนและถูกรุมโดย Volatiles ที่คุณไม่มีทางเอาชนะได้ ความผิดหวังหลักๆ อย่างเดียวคือ The Beast ไม่ได้เพิ่มอะไรมากมายนัก นอกจากกลไกอันอลังการ และหลังจากเกมที่พัฒนามาเกือบสิบปีโดยแทบไม่มีนวัตกรรมใหม่ๆ เลย ก็ยังไม่มีอะไรให้เซอร์ไพรส์มากมายนัก ถึงอย่างนั้น ซีรีส์นี้ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างสำหรับความบันเทิงที่ต่อเนื่อง และผมก็ควานหาทุกเควสต์เสริมและปริศนาไต่ระดับที่หาเจออย่างมีความสุข

Dying Light ซีรีส์เกมแนวแอ็กชันเอาตัวรอด
ซีรีส์ Dying Light เป็นซีรีส์เกมแนวแอ็กชันเอาตัวรอดในโลกหลังหายนะที่เต็มไปด้วยซอมบี้ ภาคต่อนี้ดำเนินเรื่องราวของตัวเอกจากภาคแรก ไคล์ เครน ผู้ซึ่งผ่านเหตุการณ์อันน่าสยดสยองมากมายจนกลายร่างเป็นอสูรกายครึ่งคนครึ่งสัตว์ ที่สามารถกระโดดขึ้นไปบนอากาศได้สูงถึง 50 ฟุต และกรีดร้องเสียงดังจนเหล่าอันเดดได้รับความเสียหายทางจิต… เรียกได้ว่ายังคงแปลกประหลาดอยู่มาก เนื้อเรื่องที่บางเฉียบนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ซึ่งทำให้คุณต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายบอนด์ที่ธรรมดาที่สุดในโลกและนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง ในภารกิจล้างแค้นที่ดำเนินไปอย่างที่คิดไว้ทุกประการ แต่มันก็เป็นข้ออ้างที่ดีพอที่จะล่าบอสและเข้าร่วมภารกิจเสริมที่ปกติแล้วเขียนได้ดีกว่าและบางครั้งก็ดูไร้สาระสิ้นดี ยิ่งไปกว่านั้น ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะดูเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ตัวละครที่คุณได้พบและผูกมิตรระหว่างทางนั้นน่าจดจำมากพอจนผมไม่อยากข้ามบทสนทนายาวๆ ที่จะได้รู้จักพวกเขา เรื่องราวหลัก ๆ จะเล่าผ่านตัวละครเอกที่ชื่อ ไคล์ เครน (Kyle Crane) โดยมีเนื้อเรื่องแบ่งออกเป็นหลายส่วน

Dying Light ภาคหลัก
- เรื่องราวเริ่มต้: คุณจะได้รับบทเป็นไคล์ เครน เจ้าหน้าที่ลับขององค์กร Global Relief Effort (GRE) ซึ่งถูกส่งตัวเข้าไปในเมือง “ฮาร์แรน” (Harran) ที่กำลังถูกกักกันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสปริศนา ภารกิจของคุณคือการตามหาไฟล์ลับที่ถูกขโมยไปโดยนักการเมืองนอกคอกชื่อ “ราอีส” (Rais)
- การเอาชีวิตรอดในฮาร์แรน หลังจากที่ลงจอดในเมือง เครนก็ถูกซอมบี้กัดและติดเชื้อในทันที แต่โชคดีที่เขาได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มผู้รอดชีวิตในอาคารที่เรียกว่า “เดอะทาวเวอร์” (The Tower) และได้รับยา “แอนติซิน” (Antizin) ที่ช่วยยับยั้งการติดเชื้อไว้ชั่วคราว ทำให้เขากลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มและต้องช่วยเหลืองานต่างๆ เพื่อแลกกับยา
- การปะทะกับราอีส เครนต้องทำงานให้กับราอีสเพื่อเข้าถึงไฟล์ลับตามภารกิจ แต่ราอีสเป็นผู้นำกลุ่มอันธพาลที่โหดร้ายและเห็นแก่ตัว เขาขโมยเสบียงและยาจากเครื่องบินที่ถูกส่งมา ทำให้ผู้รอดชีวิตในเมืองต้องตกอยู่ในความลำบาก เครนต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่า GRE อาจมีเจตนาแอบแฝงในการนำไวรัสไปใช้เป็นอาวุธชีวภาพ และรัฐบาลก็วางแผนที่จะทิ้งระเบิดเพื่อทำลายเมืองทั้งเมือง
- การต่อสู้เพื่อชาวฮาร์แรน เครนตัดสินใจที่จะช่วยเหลือชาวเมืองและเปิดโปงความจริง เขาได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือออกไปจนแผนการทิ้งระเบิดถูกยกเลิก และท้ายที่สุดเขาก็ต้องเข้าปะทะกับราอีสเพื่อแย่งชิงไฟล์ลับและยุติความเลวร้ายของเขา

Dying Light The Following (DLC)
- สู่ชนบท หลังจากเหตุการณ์ในภาคหลัก เครนได้รับข่าวลือว่ามีกลุ่มคนในพื้นที่ชนบทนอกเมืองฮาร์แรนที่สามารถต้านทานไวรัสได้ เขาจึงเดินทางออกไปเพื่อสืบหาความจริงและหวังว่าจะพบวิธีรักษา
- ลัทธิปริศนา เครนพบว่าชาวบ้านในชนบทได้เข้าร่วมกับลัทธิ “เด็กแห่งดวงอาทิตย์” (The Children of the Sun) ที่บูชา “เดอะมาเธอร์” (The Mother) ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของภูมิคุ้มกัน พวกเขามีพิธีกรรมประหลาดและใช้สารเคมีบางอย่างที่ทำให้ร่างกายสามารถต้านทานการกลายพันธุ์ได้
- การเปิดเผยความลับ เมื่อเจาะลึกเข้าไปในลัทธิ เครนพบว่าสารเคมีนั้นมาจากสารที่ถูกกลายพันธุ์จากในร่างของเดอะมาเธอร์ ซึ่งแท้จริงแล้วเธอคือ “วอลาไทล์” (Volatile) สายพันธุ์ซอมบี้ที่แข็งแกร่งที่สุดและสามารถพูดได้
- ฉากจบที่สละชีพเพื่อชาวเมือง: เครนปฏิเสธข้อเสนอของเดอะมาเธอร์และต้องต่อสู้กับเธอ ท้ายที่สุดแล้วเขาได้เอาสารเคมีมาเพื่อนำกลับไปให้ชาวฮาร์แรน แต่ในระหว่างการเดินทางเขาก็ค่อยๆ กลายพันธุ์เป็นวอลาไทล์เช่นกัน และทำให้เชื้อแพร่กระจายออกไปนอกเขตเมือง
- ฉากจบที่โลกถูกทำลาย: เครนเลือกที่จะร่วมมือกับเดอะมาเธอร์เพื่อยุติการแพร่ระบาดด้วยการจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกซ่อนไว้ในพื้นที่

Dying Light 2 Stay Human
- เรื่องราวใหม่ในอนาคต เนื้อเรื่องจะดำเนินไป 22 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก โดยตัวละครเอกเปลี่ยนเป็น ไอเดน คาลด์เวลล์ (Aiden Caldwell) ซึ่งเป็น “พิลกริม” (Pilgrim) หรือนักเดินทางที่ออกตามหาข้อมูลเกี่ยวกับน้องสาวที่หายไปของเขา
- เมืองใหม่และกลุ่มต่าง ๆ ไอเดนเดินทางมาถึงเมือง “วีลีดอร์” (Villedor) ซึ่งเป็นหนึ่งในที่หลบภัยที่เหลืออยู่ของมนุษยชาติ เขาจะต้องเอาชีวิตรอดและเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้รอดชีวิตที่มีอุดมการณ์แตกต่างกัน เช่น “พีซคีปเปอร์” (Peacekeepers) ที่ต้องการฟื้นฟูระเบียบและอำนาจทหาร หรือ “เซอร์ไวเวอร์” (Survivors) ที่เน้นการอยู่อย่างอิสระ
- การตัดสินใจที่มีผลต่อเรื่องราว เนื้อเรื่องในภาคนี้เน้นไปที่การตัดสินใจของผู้เล่นที่จะส่งผลต่อเส้นทางของเรื่องราวและสภาพแวดล้อมในเมือง ทำให้เกมมีฉากจบและเนื้อเรื่องย่อยที่หลากหลายมากขึ้น

เป็นภาคเสริมหรือภาคแยกของซีรีส์ โดยเนื้อเรื่องจะติดตาม ไคล์ เครน ซึ่งกลายพันธุ์เป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์ประหลาดหลังจากเหตุการณ์ใน The Following เขามีพลังเหนือมนุษย์และต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในตัวเองในขณะที่ต้องตามล่าคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้