เรื่องราวการแก้แค้นในเกม Octopath Traveler

Octopath Traveler ภาคแรก และ Octopath Traveler II ที่ออกวางจำหน่ายไปแล้ว และยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับภาคใหม่ครับอย่างไรก็ตาม ในจักรวาลของเกม Octopath Traveler ประเด็นเรื่อง “การแก้แค้น” เป็นแก่นเรื่องที่สำคัญในเนื้อหาของตัวละครหลายๆ ตัว เรื่องราวการแก้แค้นในเกม Octopath Traveler ซึ่งทำให้เรื่องราวมีความเข้มข้นและน่าติดตามมากในการแก้แค้นของ Osvald เต็มไปด้วยความขมขื่นและความมุ่งมั่น เขาไม่ได้ต้องการแค่การแก้แค้น แต่ต้องการเปิดเผยความจริงและทวงคืนศักดิ์ศรีของตัวเองคืนมา ซึ่งเรื่องราวของเขาได้สำรวจผลกระทบที่การแก้แค้นมีต่อจิตใจของคนได้อย่างลึกซึ้ง

การแก้แค้นใน Octopath Traveler

  • Throné (โจร) หนึ่งในตัวละครหลักที่มีเรื่องราวการแก้แค้นเป็นแก่นสำคัญ เธอเป็นโจรที่พยายามหาทางปลดปล่อยตัวเองจากการถูกควบคุมโดยกลุ่มอาชญากรที่โหดร้าย เรื่องราวของเธอคือการตามล่าและกำจัดผู้ที่เคยทำร้ายเธอและคนใกล้ชิดในอดีต ซึ่งสะท้อนประโยคที่ว่า “การแก้แค้นเป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุด” ได้เป็นอย่างดี
  • Ochette (นักล่า) แม้จะไม่ได้เน้นเรื่องการแก้แค้นโดยตรง แต่เส้นทางของเธอก็มีการตามล่าสิ่งมีชีวิตในตำนานที่เคยทำร้ายบ้านเกิดของเธอ ทำให้เธอต้องออกเดินทางเพื่อกอบกู้เกียรติของเผ่าและแก้แค้นให้กับการสูญเสียที่เกิดขึ้น
  • Partitio (พ่อค้า) เรื่องราวของ Partitio ก็มีการแก้แค้นอยู่ในตัว แม้จะไม่ได้เป็นการแก้แค้นด้วยความรุนแรง แต่เป็นการแก้แค้นในเชิงธุรกิจ เขาออกเดินทางเพื่อตามหานักประดิษฐ์ในตำนานที่เคยร่วมมือกับเศรษฐีผู้โลภมากเพื่อสร้าง “เครื่องจักรไอน้ำ” และนำเทคโนโลยีนี้ไปผูกขาด ทำให้ชาวเมืองต้องตกอยู่ในความยากลำบาก
  • เป้าหมายของ Partitio คือการทำลายการผูกขาดนี้ และนำเทคโนโลยีอันก้าวหน้ามาใช้เพื่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งในแง่หนึ่งก็เป็นการแก้แค้นให้กับความอยุติธรรมที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
  • Osvald (นักวิชาการ) คือตัวละครที่เรื่องราวการแก้แค้นชัดเจนที่สุดในภาคแรก เขาถูกปรักปรำว่าฆ่าภรรยาและลูกสาวของตัวเอง และถูกจำคุกมานานหลายปี เส้นทางของเขาคือการแหกคุกและตามล่าชายที่ชื่อ Harvey ซึ่งเป็นเพื่อนและคู่แข่งที่ทรยศเขา

ประเด็นเรื่องการแก้แค้น Octopath Traveler

Octopath Traveler 0 ตั้งแต่นั้นมาแต่เริ่มเล่นการควบคุมแนวคิดเรื่องบ้านและชุมชนเป็นหัวใจส่วนหนึ่งใน Square ในซีรีส์ HD-2D ตามลำดับในทรงเกียรตินั้นสิ่งที่เป็นผลสำเร็จผมทำคือการสร้างบ้าน Octopath Traveler 0 คือเรื่องราวการกำกับดูแลของคุณ Wishvale ก่อนหน้านี้และคุณโกรธมาก (เข้าใจได้) เลยตัดสินใจไล่ล่าคนที่ทำผิดคุณและฟื้นฟู Wishvale ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งองค์กรที่แสดงถึงความเป็นเมืองใหม่จริงๆ โครงสร้างที่มีความสำคัญอย่างยิ่งการสร้างเมืองใน Octopath Traveler 0 นี่มันเจ๋งจริงๆ เลยนะ [หมายเหตุบรรณาธิการ: เรารู้แล้วว่าขนาดเมืองของคุณจะมีข้อจำกัดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่คุณเล่น] ผมเป็นคนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ใน Age of Empires สร้างเมืองสวยๆ เลยรู้สึกอินกับมันทันที คุณสามารถสร้างบ้านและอาคารอื่นๆ ที่มีดีไซน์ต่างกัน กำหนดว่าใครจะอยู่ตรงไหน สร้างทางเดินหินกรวด ปลูกดอกไม้และจัดวางม้านั่ง ทำสวนงานฝีมือ และหาที่ที่เหมาะสมกับลังไม้สำหรับเก็บไม้และวัสดุอื่นๆ ที่คุณต้องการสร้าง นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ บ่อน้ำ หีบ และอื่นๆ อีกมากมาย และยังมีอิสระมากมายในการสร้างเมืองที่คุณต้องการ

ความน่าสนใจของเกม Octopath Travele

เกม Octopath Traveler ทั้งภาคแรกและภาคสอง มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้เป็นเกม JRPG ที่น่าสนใจและแตกต่างจากเกมอื่นๆ ในยุคเดียวกันครับ

1. กราฟิกและงานศิลป์แบบ “HD-2D”

นี่คือจุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดของเกมนี้เลยครับ ตัวเกมใช้กราฟิกสไตล์ “HD-2D” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างงานศิลปะแบบพิกเซลอาร์ต 2 มิติย้อนยุค (16-bit) กับเทคนิค 3 มิติสมัยใหม่ เช่น เอฟเฟกต์แสงเงา, ความลึกของภาพแบบเลนส์เอียง (Tilt-shift), และน้ำที่ดูเหมือนของจริง ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพที่ดูสวยงาม มีชีวิตชีวา และให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังเล่นเกม RPG คลาสสิกในความทรงจำ แต่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่ทันสมัย

2. ระบบการต่อสู้ที่ลุ่มลึกและท้าทาย

ถึงแม้จะเป็นเกม JRPG แบบ Turn-based แต่ก็ไม่ได้น่าเบื่อเลยครับ ตัวเกมมีระบบที่เรียกว่า “Break” และ “Boost” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการต่อสู้

  • Break ศัตรูแต่ละตัวจะมีเกราะและจุดอ่อน (อาวุธหรือเวทมนตร์บางประเภท) เมื่อเราโจมตีถูกจุดอ่อนครบตามจำนวนเกราะ ศัตรูจะเข้าสู่สถานะ “Break” ทำให้หมดสติไปชั่วขณะและได้รับความเสียหายมากขึ้น
  • Boost ในแต่ละเทิร์น ตัวละครจะได้รับ Boost Point (BP) ซึ่งสามารถสะสมได้สูงสุด 5 แต้มเพื่อใช้เพิ่มจำนวนครั้งในการโจมตีหรือเพิ่มความรุนแรงของสกิล ทำให้การต่อสู้มีกลยุทธ์ที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ

3. เรื่องราวและตัวละครที่หลากหลาย

เกมนี้มีตัวละครหลัก 8 คน (จึงเป็นที่มาของชื่อ Octopath) ที่แต่ละคนมีเรื่องราว, อาชีพ, และเป้าหมายที่แตกต่างกัน ผู้เล่นสามารถเลือกเริ่มเกมจากตัวละครใดก็ได้ และเนื้อหาของแต่ละคนจะถูกนำเสนอแยกเป็นบทๆ อย่างชัดเจน

  • ความอิสระ ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก่อน จะรับตัวละครไหนเข้าทีมก่อน หรือจะเล่นเนื้อเรื่องของใครให้จบก่อนก็ได้
  • ความสัมพันธ์ แม้ว่าเนื้อเรื่องของแต่ละคนจะแยกจากกันในตอนแรก แต่ในภาค 2 ได้มีการเพิ่มฉาก “Crossed Paths” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ตัวละครสองคนจะมาพบกันและมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น ทำให้เนื้อเรื่องมีความเชื่อมโยงและน่าติดตามยิ่งขึ้น

4. เพลงประกอบที่ไพเราะและน่าประทับใจ

เพลงประกอบของเกมนี้ได้รับคำชื่นชมอย่างสูงว่าเป็นหนึ่งในเพลงประกอบเกมที่ดีที่สุดของยุคนี้เลย การแก้แค้น ดนตรีถูกแต่งขึ้นอย่างพิถีพิถันเพื่อสะท้อนบรรยากาศของแต่ละเมือง แต่ละดันเจี้ยน และอารมณ์ของตัวละครได้อย่างลงตัว ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

5. Path Actions ที่หลากหลาย

ตัวละครแต่ละคนมี “Path Actions” หรือการกระทำพิเศษที่สามารถทำกับ NPC ในเมืองได้ เช่น

  • H’aanit (นักล่า) สามารถ “Provoke” หรือท้าทาย NPC ให้ต่อสู้ได้
  • Therion (โจร) สามารถ “Steal” หรือขโมยไอเท็มจาก NPC ได้
  • Cyrus (นักวิชาการ) สามารถ “Scrutinize” หรือสอบถามข้อมูลจาก NPC ได้
Scroll to Top