ห่าก้อม เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่กำกับโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ออกฉายในปี 2025 โดยนำเสนอตำนานผีปอบแห่งภาคอีสานในมุมมองใหม่ ที่ไม่ได้เน้นเพียงแค่ความสยดสยองของผี แต่เป็นการ กัดกินและสะท้อนความมืดดำในจิตใจมนุษย์

เรื่องย่อและแก่นของเรื่อง ห่าก้อม
ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแก่นเรื่องอยู่ที่ กิเลสตัณหา ความโลภ และการไร้ซึ่งความละอายต่อบาปของมนุษย์ โดยใช้ตำนานของห่าก้อมซึ่งเป็นผีปอบที่มีอำนาจและวิชาอาคมสูงกว่าผีปอบทั่วไปเป็นสัญลักษณ์
- ห่าก้อมคืออดีตมนุษย์ผู้ที่เคยเล่นคุณไสยมนต์ดำจนของเข้าตัว และได้กระทำผิดต่อครูบาอาจารย์ ส่งผลให้กลายสภาพเป็น พญาผีปอบ ที่มีความอาฆาตและกระหายไม่สิ้นสุด
- คำถามหลักของเรื่อง คือ ภายใต้สังคมที่ดูศิวิไลซ์และความเจริญงอกงามภายนอก สิ่งที่ยังคงมืดมิด อ่อนแอ และพ่ายแพ้ต่อกิเลสอยู่เสมอ ก็คือ จิตใจของมนุษย์ เอง

โครงเรื่องและตัวละครหลัก
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ แบงค์ เดินทางกลับมายังบ้านเกิดเพื่อร่วมพิธีศพของเพื่อนสนิท แต่เขากลับเชื่ออย่างสุดใจว่า ยายพร ยายแก่ในหมู่บ้านที่ชาวบ้านต่างหวาดกลัวและเชื่อว่าเป็น ปอบร้าย คือฆาตกรที่คร่าชีวิตเพื่อนของเขา
- ความขัดแย้ง: หนังพาผู้ชมไปสำรวจว่าใครคือปอบที่แท้จริง หรืออะไรคือสิ่งที่ทำให้มนุษย์กลายเป็นผีปอบ
- ชาวบ้านเชื่อว่ายายพรคือปอบร้ายตามตำนานอีสานที่กัดกินของสด สิงสู่คนอื่น และเป็นที่รังเกียจ
- แต่ในขณะเดียวกัน หนังจะค่อย ๆ เผยให้เห็นถึง ความเห็นแก่ตัว ความอิจฉาริษยา และความเลวทราม ที่ซ่อนอยู่ในจิตใจของมนุษย์หลายคนในหมู่บ้าน ซึ่งบางครั้งความชั่วร้ายของมนุษย์นั้นน่ากลัวและเลวทรามยิ่งกว่าผีปอบเสียอีก
- ปอบกินใจ: ภาพยนตร์นำเสนอแนวคิดที่ว่า ห่าก้อม ไม่ได้เป็นเพียงผีที่สิงร่างเท่านั้น แต่จะเข้ากัดกินจิตใจและความเป็นคนเมื่อใดก็ตามที่มนุษย์มี “ความอยาก” เป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็นความโลภในทรัพย์สิน ความอยากได้อยากมี หรือความริษยาที่ไม่สิ้นสุด จนทำให้ความเป็นมนุษย์ถูกกัดกินจนหมดสิ้น
- จุดจบ: ในที่สุด ผู้ที่ยอมแพ้ต่อกิเลสตัณหาและปล่อยให้ความมืดดำครอบงำจิตใจของตนเองอย่างสมบูรณ์ ก็จะ กลายสภาพเป็น ผีปอบร้ายตามคำทำนายในที่สุด

ข้อสรุปจากการสปอยล์
- หนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ หนังผีปอบ ที่เน้นฉากสยองไส้กองเลือดนองพื้น (แม้จะมีฉากน่ากลัวอยู่บ้าง) แต่เป็นหนังที่ จิกกัดและสะท้อนสังคม อย่างลึกซึ้ง โดยใช้ผีปอบเป็นเครื่องมือในการตั้งคำถามว่า “คนกับปอบ อะไรเลวทรามกว่ากันแน่”
- หนังยังมีการผสมผสานตำนานผีเข้ากับชีวิตที่แร้นแค้นของชาวบ้านตาดำ ๆ ที่ต้องหาเช้ากินค่ำ เพื่อให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานที่ทำให้จิตใจมนุษย์อ่อนแอและพร้อมที่จะพ่ายแพ้ต่อความมืดมิดได้ง่ายขึ้น