จินตนาการถึงโรโบคอปที่น่าเบื่อ ที่นี่คือบรรยากาศของละครตลกใหม่ ‘Murderbot‘ ที่ดัดแปลงโดยคริสและพอล เวตซ์ (ผู้สร้างร่วมของ American Pie, Antz, About a Boy และอื่น ๆ) จากซีรีส์หนังสือวิทยาศาสตร์ ‘The Murderbot Diaries’ ของมาร์ธา เวลส์แนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ดี หากหน่วยรักษาความปลอดภัยไซบอร์กหนึ่งในหน่วยงานที่ทรงพลังและไม่ค่อยเมตตาของบริษัทที่ดำเนินงานทั่วขอบอณาจักรของกาแล็กซี่สามารถแฮ็กโมดูลผู้ว่าการของตัวเองและคืนความเป็นอิสระให้กับตัวเองได้ล่ะ? ดังนั้นแทนที่จะต้องดูแลความปลอดภัยของมนุษย์ที่ทำงานให้กับหรือเช่าสิทธิ์การขุดจากบริษัท มันอาจจะออกนอกลู่นอกทางแล้วฆ่าพวกเขาทั้งหมด? แล้วถ้าหากมันไม่อยากทำอย่างนั้นล่ะ? ถ้าหากมันไม่รู้สึกกังวลจริง ๆ ล่ะ? ถ้าหากมันอยากใช้เวลาดูรายการในบริการสตรีมมิ่งของบริษัทและ… ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น?
หน่วยรักษาความปลอดภัยที่เป็นปัญหา – หมายเลข 238776431 ตามที่คุณถาม – เล่นโดย Alexander Skarsgård ซึ่งใช้ความสามารถสุดเจ๋งของเขาอย่างเต็มที่ หลังจากฟื้นคืนสติและตัดสินใจซ่อนความสามารถใหม่ของมันไว้ มันพบว่าตัวเองได้รับมอบหมายให้ไปอยู่ในกลุ่มนักวิจัยจาก Preservation Alliance ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ “ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด” ที่พยายามดำเนินไปในแนวทางที่เท่าเทียมกันมากกว่าสมาชิกที่ลงทะเบียนของ Rim พวกเขากระตือรือร้นที่จะแจ้งให้ 238776431 ทราบว่าพวกเขา “ไม่สบายใจกับแนวคิดที่ต้องมีสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกมาทำงานให้กับเรา” แต่บริษัทจะไม่ออกประกันให้กับพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะทำ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกสิ่งนี้เพราะเป็นตัวเลือกที่ถูกที่สุด 238776431 ยังไม่เชี่ยวชาญในศิลปะของการกลอกตา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับ “นักวิทยาศาสตร์ฮิปปี้” เหล่านี้ คุณจะรู้สึกได้ถึงความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้น
ทีมนี้ได้รับการนำโดยดร. Ayda Mensah (รับบทโดย Noma Dumezweni ผู้ยอดเยี่ยมที่มักจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเล็กๆ) แม้ว่าพวกเขาจะพยายามไม่พูดแบบนั้นก็ตาม สมาชิกคนอื่นๆ ได้แก่ นักธรณีวิทยา Bharadwaj (รับบทโดย Tamara Podemski), Arada (รับบทโดย Tattiawna Jones), ภรรยาของเธอ Pin-Lee (รับบทโดย Sabrina Wu) และ Ratthi (รับบทโดย Akshay Khanna) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เพิ่งเกิดใหม่ แม้ว่า Pin-Lee จะมีข้อสงวนใจก็ตาม และมนุษย์ที่ได้รับการเสริมพลัง Gurathin (รับบทโดย David Dastmalchian) ซึ่งเป็นคนแรกที่ตระหนักว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติกับหน่วยรักษาความปลอดภัยของพวกเขา ในขณะที่คนอื่นๆ ต่างก็กระตือรือร้นที่จะต้อนรับแอนตี้ฮีโร่ของเราให้เป็นส่วนหนึ่งของทีม พวกเขาปฏิบัติต่อมันด้วยความเมตตาและเอาใจใส่ มันเดินทางไปพร้อมกับพวกเขาแทนที่จะอยู่ในห้องเก็บสัมภาระ และได้รับยูนิฟอร์มสำรองของพวกเขาให้สวมใส่ พวกเขาผลักมันขึ้นไปบนกำแพง “มนุษย์ที่โง่เขลา” เป็นคำพูดซ้ำๆ ในใจของมัน
เมื่อความสงสัยของ Gurathin เพิ่มมากขึ้น กลุ่มก็เถียงกันว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโมดูลผู้ว่าการจะทำให้มันน่าเชื่อถือน้อยลงโดยอัตโนมัติหรือไม่ ในแง่หนึ่ง การโฟกัสที่หุ่นยนต์ที่ด้อยลงทำให้ Bharadwaj ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในอีกแง่หนึ่ง มันเลือกที่จะช่วยเธอ โดยได้รับความเสียหายอย่างหนัก – ถึงแม้จะซ่อมแซมได้ – ในกระบวนการนั้น นั่นทำให้มันอยู่ข้างหน้าหรือข้างหลังหุ่นยนต์? 238776431 เรียกใช้บรรทัดจากรายการโปรดของบริษัท The Rise and Fall of Sanctuary Moon (ละครโทรทัศน์เรื่อง Star Trek ซึ่งมี John Cho รับบทเป็นกัปตันผู้กล้าหาญและ DeWanda Wise รับบทเป็นหุ่นยนต์นำทาง) เพื่อช่วยให้มันแสร้งทำเป็นผ่านปฏิสัมพันธ์ต่างๆ แม้ว่าจะยังคงไม่สามารถควบคุมการสบตากับใครได้ และเมื่อถูกเรียกให้กล่าวสุนทรพจน์ มันจะยอมตายแทนเหมือนกับพวกเราส่วนใหญ่
ใน 5 ตอนแรกของ 10 ตอนครึ่งชั่วโมง Murderbot แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากการย่ำน้ำ และการแสดงตลกของไซบอร์กหน้าหินที่เกลียดชังเจ้านายมนุษย์อย่างลับๆ และหวังว่าจะได้อยู่อย่างสงบสุขก็ปรากฏออกมาในไม่ช้า มีฉากที่ห้ามกลอกตาในสถานการณ์สามคนที่คุณสามารถรับชมได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่เรื่องตลกจะไม่ตลกแม้แต่น้อยเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
จังหวะเริ่มเร็วขึ้นเล็กน้อยเมื่อพวกฮิปปี้รู้สึกว่ามีหน้าที่ต้องสืบสวนการสังหารหมู่นักวิทยาศาสตร์วิจัยกลุ่มอื่นที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้น กำแพงระหว่างหน่วยรักษาความปลอดภัยและมนุษย์ก็เริ่มพังทลายลง และเราทุกคนสามารถเริ่มไตร่ตรองคำถามทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ เราควรปฏิบัติต่อผู้ไร้วิญญาณและมีวิญญาณอย่างไร และทางเลือกของเราบอกอะไรเกี่ยวกับตัวเรา และอื่นๆ อีกมากมาย
ซีรีส์แรกนี้อิงจากหนังสือบางเล่มที่ไม่มีเนื้อเรื่องมากนัก และพี่น้องตระกูลไวทซ์ดูเหมือนจะยึดมั่นกับหนังสือมากเกินไป แทนที่จะใช้หนังสือเล่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเรื่องราวที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น แม้ว่าจังหวะจะดีขึ้นและการโต้ตอบระหว่างตัวละครจะมีความหมายมากขึ้นเมื่อซีรีส์ดำเนินไป แต่เมื่อ “มนุษย์โง่เง่า” ยังคงเป็นเนื้อหาหลักของคำบรรยาย และ “ฉันไม่มีกระเพาะ ดังนั้นฉันจึงอาเจียนไม่ได้ แต่ถ้าอาเจียน ฉันก็จะอาเจียน” เป็นตัวอย่างที่ดีของอารมณ์ขัน ซีรีส์นี้จึงรู้สึกเหมือนกับว่าเสียโอกาสไปโดยเปล่าประโยชน์