รีวิว Skate Early Access

Skate Early Access  ระบุอย่างชัดเจนว่าเกมเวอร์ชัน Early Access ปี 2025 สะท้อนถึงอะไรต่อซีรีส์โดยรวม “นี่ไม่ใช่ภาคต่อ รีเมค หรือรีมาสเตอร์” คำอธิบายสั้นๆ ระบุ “แต่มันคือวิวัฒนาการของแฟรนไชส์ ​​Skate” ส่วนแรกผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง รีวิว Skate Early Access นี่ไม่ใช่ Skate 4 และแน่นอนว่าไม่ใช่การรีเมคเกมต้นฉบับด้วยซ้ำ ส่วนที่สองก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปเสียทีเดียว มันเป็นวิวัฒนาการอย่างหนึ่ง กล่าวคือ มันเปลี่ยนไปเยอะมาก น่าเสียดายที่นั่นหมายความว่า Skate เวอร์ชันใหม่นี้แทบไม่มีความคล้ายคลึงกับเกมต้นฉบับช่วงปลายยุค 2000 ที่ผมชื่นชอบเลย และตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้สึกอบอุ่นใจไปกับการคิดค้นใหม่ที่ถูกทำให้สะอาด ถูกทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน และสร้างรายได้ของมัน ใช่ Skate ได้พัฒนาไปอย่างมาก แต่มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมที่เล่นฟรีและถูกครอบงำด้วยเกมบริการ เหมือนแมลงเม่าในเมืองที่ปกคลุมไปด้วยเขม่าควันในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมของอังกฤษ ฉันไม่คิดว่าเคยเปรียบเทียบเกมกับแมลงมาก่อน แต่บางทีมันอาจสมเหตุสมผลเมื่อฉันพบว่ามันขับไล่แมลงได้ขนาดนี้ก่อนที่ผมจะลงลึกถึงสาเหตุที่มันดูน่ารำคาญเกินไป

การเปิดตัวเกม Skate Early Access

ซึ่งจุดแรกคือเอฟเฟกต์เสียง เมื่อพูดถึงการบันทึกเสียงสเก็ตบอร์ดที่หลากหลายและละเอียดอ่อน เช่น เสียงล้อหมุน เสียงเสียดสีของไม้อัดบนพื้นผิวต่างๆ และเสียงโลหะกระทบกัน ทีมงานทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาก แม้จะมองข้ามดนตรีประกอบและบทสนทนา (ซึ่งผมจะพูดถึงในภายหลัง) แต่ Skate ก็ทำเสียงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนซิมโฟนีของการเล่นสเก็ตบอร์ด และเมื่อคุณเล่นอย่างลื่นไหลจริงๆ มันจะมีจังหวะที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายราวกับกำลังนั่งสมาธิ เสียงป๊อป เสียงปิ๊ง เสียงขูดขีด และเสียงเอี๊ยดอ๊าด เสียงเหล่านี้ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และผมไม่รู้จะอธิบายมันอย่างไร “Skate” ในเวอร์ชัน Early Access เป็นการกลับมาของแฟรนไชส์เกมสเก็ตบอร์ดชื่อดังที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตัวเกมเป็นแบบ Free-to-Play และเน้นการเป็นเกมออนไลน์แบบ Live Service ที่ผู้เล่นสามารถเล่นร่วมกับคนอื่นๆ ในโลกกว้างได้

รายละเอียดหลักของเกม Skate Early Access

  • รูปแบบการเล่น หัวใจของเกมคือระบบควบคุม “Flick-It” ที่ถูกยกเครื่องใหม่ใน Frostbite Engine ทำให้การทำทริกต่างๆ ด้วยการขยับอนาล็อกมีความแม่นยำและลึกซึ้งกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มทริกใหม่ๆ เช่น Quick Nollies, Double Grinds และ Slappies เข้ามาด้วย
  • โลกของเกม ฉากในเกมคือเมือง San Vansterdam ซึ่งเป็นโลกเปิดที่ผู้เล่นจะได้สำรวจร่วมกับผู้เล่นคนอื่นได้สูงสุดถึง 150 คนในเซิร์ฟเวอร์เดียว ตัวเมืองมีหลายย่านที่แตกต่างกันและมีระดับความสูง (Verticality) ที่โดดเด่น ผู้เล่นสามารถลงจากบอร์ดเพื่อปีนป่ายตึกระฟ้าเพื่อค้นหาสถานที่เล่นสเก็ตใหม่ๆ ได้
  • ระบบโซเชียล ตัวเกมถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเล่นร่วมกับผู้อื่น ผู้เล่นสามารถสร้างปาร์ตี้กับเพื่อนๆ และใช้ระบบ Quick Drop เพื่อวางสิ่งของต่างๆ เช่น ทางลาดหรือราวเหล็ก เพื่อสร้างจุดเล่นสเก็ตของตัวเองและให้ผู้เล่นคนอื่นได้ใช้ด้วย
  • ภารกิจและกิจกรรม เกมมีภารกิจหลักแบบกึ่งเนื้อเรื่องที่พาผู้เล่นไปสำรวจพื้นที่ต่างๆ ของเมือง และยังมี Challenge ต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วแผนที่ให้ทำเพื่อรับรางวัล
  • การปรับแต่งตัวละคร ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวละครของตัวเองได้หลากหลาย ทั้งเสื้อผ้า, อุปกรณ์ และของตกแต่งอื่นๆ ที่มีให้เลือกมากมายจากแบรนด์สเก็ตบอร์ดชื่อดัง

ฟีดแบ็คจากผู้เล่น

ผู้เล่นที่ได้สัมผัส เกม Early Access มีความเห็นที่หลากหลาย:

  • ด้านบวก ผู้เล่นส่วนใหญ่ชื่นชมการควบคุมและการเล่นสเก็ตที่ยังคงยอดเยี่ยมและเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ “Skate” ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนยังคงสนุกกับเกมได้
  • ด้านลบ เกมได้รับคำวิจารณ์อย่างมากเกี่ยวกับปัญหาเซิร์ฟเวอร์ในช่วงเปิดตัว ซึ่งทำให้ไม่สามารถเข้าเล่นได้ และเนื่องจากเป็นเกมแบบออนไลน์ตลอดเวลา ทำให้ไม่สามารถเล่นแบบออฟไลน์ได้เมื่อเซิร์ฟเวอร์ล่ม นอกจากนี้ ผู้เล่นบางส่วนยังรู้สึกว่าตัวเกมยังขาดเนื้อหา, โหมดการเล่นที่เคยมีในภาคก่อนๆ และ “จิตวิญญาณ” ของเกมซีรีส์ดั้งเดิมที่ดูสมจริงกว่า

จุดแข็ง (The Good)

  • Gameplay สุดยอด หัวใจหลักของเกมซีรีส์ Skate คือระบบควบคุมแบบ “Flick-It” ที่ใช้การขยับอนาล็อกขวาเพื่อทำท่าต่างๆ และระบบนี้ยังคงทำได้ดีเยี่ยมในภาคนี้ ผู้เล่นที่คุ้นเคยกับภาคก่อนๆ จะกลับมาเล่นได้อย่างลื่นไหลและรู้สึกเป็นธรรมชาติ การเล่นสเก็ตบอร์ดทำได้อย่างสนุกสนานและท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อปิดตัวช่วย (assist) และลองทำท่าแบบแมนนวลเอง
  • งานอนิเมชันที่ยอดเยี่ยม ท่าทริกต่างๆ ในเกมดูสวยงามและสมจริง
  • ระบบโซเชียลและ Quick Drop เกมนี้เป็นเกมออนไลน์แบบ MMO ที่เน้นการเล่นกับผู้เล่นคนอื่น คุณสามารถสำรวจเมือง San Vansterdam ร่วมกับเพื่อนๆ และใช้ระบบ Quick Drop เพื่อสร้างสิ่งกีดขวางหรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการเล่นสเก็ตแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยส่งเสริมการสร้างสรรค์และเล่นร่วมกันในกลุ่มเพื่อน
  • ตัวเกมเป็น Free-to-Play ผู้เล่นสามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ฟรี ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและไม่ต้องเสียเงินเพื่อลองเล่น

จุดอ่อน (The Bad)

  • ปัญหาเซิร์ฟเวอร์ ในช่วงเปิดตัว Early Access เกมประสบปัญหาเซิร์ฟเวอร์ล่มและคิวเข้าเล่นที่ยาวนาน ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงเกมได้ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเกมที่ต้องออนไลน์ตลอดเวลา
  • ขาดเนื้อหาและ “จิตวิญญาณ”: ผู้เล่นหลายคนรู้สึกว่าเกมในเวอร์ชันนี้ยังขาดเนื้อหาและโหมดการเล่นที่เคยมีในภาคก่อนๆ เช่น “Hall of Meat” หรือภารกิจเนื้อเรื่องแบบมืออาชีพ (Pro Skater) ตัวเกมรู้สึกเหมือนเป็นเพียงกระดานโต้คลื่นขนาดใหญ่ที่ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน
  • สไตล์ศิลปะ (Art Style) และบรรยากาศ เกมมีสไตล์กราฟิกที่ดู “การ์ตูน” และดูเป็นมิตรกับผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น ซึ่งทำให้แฟนๆ บางส่วนรู้สึกว่าเกมขาดความสมจริงและเสน่ห์แบบ Skate ดั้งเดิม นอกจากนี้ ตัวละครและบทพูดในเกมยังถูกวิจารณ์ว่าดู “เชย” และ “ไม่เข้าถึง” แฟนสเก็ตบอร์ดตัวจริง
  • ระบบ Microtransactions แม้จะเป็นเกม Free-to-Play แต่ก็มีระบบขายของในเกมที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้บางคนรู้สึกว่า EA มุ่งเน้นไปที่การทำเงินมากกว่าการสร้างเกมที่สมบูรณ์
  • การบังคับบางอย่างยังไม่สมบูรณ์ การเลี้ยวอาจจะดูแข็งๆ ไปบ้าง และระบบช่วยบด (Grind Assist) ก็ค่อนข้างเหนียวแน่นเกินไป ทำให้ความลื่นไหลในการเล่นลดลง
Scroll to Top